โครงการดังกล่าวพัฒนาขึ้นโดย ACCIONA Energy บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของโลกภายใต้การร่วมทุนกับ Tuto Energy หนึ่งในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยคาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 963 กิกะวัตต์-ชั่วโมงต่อปี และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในพื้นที่ลง 925,443 เมตริกตัน อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากพลังงานทดแทนในภูมิภาคดังกล่าว
เนื่องด้วยที่ตั้งของโครงการอยู่ในเขตทะเลทรายโซนอรันของเม็กซิโก ซึ่งเป็นบริเวณที่ต้องเผชิญสภาวะแวดล้อมรุนแรงจากทั้งอุณหภูมิระดับสูง การแผ่รังสีอัลตราไวโอเลต และพายุทราย จึงส่งผลให้มีข้อกำหนดเข้มงวดในการนำเอาโมดูลพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีความน่าเชื่อถือสูงมาใช้งานในภูมิภาค
ผลิตภัณฑ์ของ JA Solar ผ่านการทดสอบความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ความแห้งแล้ง ทะเลทราย และความร้อนชื้น อีกทั้งยังสามารถทนอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมสุดหฤโหดเหล่านี้ได้อย่างดีเยี่ยม และรับประกันได้ว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น
ประสิทธิภาพที่โดดเด่นของเซลล์และโมดูลแสงอาทิตย์ยังได้เปิดโอกาสให้ JA Solar พัฒนาความร่วมมืออย่างแน่นแฟ้นกับ IEnova บริษัทพลังงานสัญชาติเม็กซิโกที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง รวมถึงเป็นบริษัทย่อยของ Sempra Energy ตลอดจนมอบโมดูลขนาด 200 เมกะวัตต์ให้กับโครงการของบริษัทที่ตั้งอยู่ในทะเลทรายโซนอรัน
คุณเฉา ป๋อ รองประธานบริษัท JA Solar กล่าวว่า "เรามีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มอุตสาหกรรมและการพัฒนาพลังงานเซลล์แสงอาทิตย์ในเม็กซิโก ในปี 2560 เราได้จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ที่เม็กซิโกเพื่อขยายกิจการ และรองรับความต้องการของลูกค้าและพันธมิตรของเราในภูมิภาค JA Solar จะมุ่งเดินหน้าขยายส่วนแบ่งทางตลาดในภูมิภาคนี้ และจัดหาโมดูลแสงอาทิตย์ที่มีความน่าเชื่อยิ่งขึ้น รวมถึงมอบบริการคุณภาพเยี่ยมให้แก่ลูกค้าของเรา"
สื่อมวลชนติดต่อ
Xiaorui Sun
โทร. +86-10-6361-1888 x1698