นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/61 มีรายได้รวม 16,186 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,659 ล้านบาท หรือ 20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 13,527 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจจำหน่ายก๊าซ LPG ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จากปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้น และราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าในงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก ในช่วงไตรมาส 2/61 มีราคาเฉลี่ยประมาณ 512 ดอลลาร์/ตัน เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 412 ดอลลาร์/ตัน
นอกเหนือจากธุรกิจก๊าซ LPG ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของธุรกิจโรงไฟฟ้าของ SGP ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้า 2 โรงในเมียนมา กำลังการผลิต 230 เมกะวัตต์ และ 10 เมกะวัตต์ ซึ่งในช่วงไตรมาส 2/61 โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล ขนาดกำลังการผลิต 10 MW เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ ทำให้เริ่มมีการรับรู้รายได้จากการขายไฟ
กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปีนี้ คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและแข็งแกร่ง โดยได้รับปัจจัยบวกจากราคาก๊าซ LPG ที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูง สอดคล้องกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมไปถึงการขยายตลาดส่งออกใหม่ๆในต่างประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของประเทศจีน มาเลเซีย ประเทศใหม่ๆในแถบเอเชียตะวันออกที่มีความต้องการใช้ก๊าซ LPG เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้มั่นใจว่ายอดขายในปีนี้จะแตะที่ระดับ 3.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 3.2 ล้านตัน