“อาร์เอส” โตสนั่น!! ไตรมาส 2 กำไรพุ่ง 230% ใจดีจ่ายปันผลระหว่างกาลหุ้นละ 25 สตางค์

พฤหัส ๐๙ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๐๕
นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทฯ รุกเข้าสู่ธุรกิจเชิงพาณิชย์ยุคใหม่อย่างเต็มตัว โดยมีการโฆษณาและนำเสนอสินค้าผ่านแพลตฟอร์มที่แข็งแรงในกลุ่มอาร์เอสทั้งช่อง 8 ทีวีดาวเทียม และคลื่นวิทยุ COOL ซึ่งเข้าถึงประชากรร่วม 15 ล้านคนต่อวัน ไม่เป็นการพึ่งพาเฉพาะการขายสินค้าผ่านหน้าร้านค้าแบบเดิมเพียงอย่างเดียว สามารถสื่อสารและเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคได้โดยตรง เกิดเป็นโมเดลที่แตกต่างและได้เปรียบเหนือรายอื่นๆ ในตลาด

สำหรับผลการดำเนินงานมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นทั้งรายได้และกำไร โดยมีรายได้ในไตรมาส 2/2561 กว่า 955 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่ช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้ร่วม 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20% ในส่วนของกำไรสุทธิในไตรมาส 2 สูงถึง 172 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 230% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และช่วงครึ่งปีแรกมีกำไรสุทธิรวม 274 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 177% เชื่อมั่นว่าผลประกอบการทั้งปี 2561 จะทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ตอบโจทย์ความสำเร็จของโมเดลธุรกิจใหม่ที่มีการผสานกันของธุรกิจพาณิชย์และธุรกิจสื่ออย่างลงตัว

ทั้งนี้ ธุรกิจพาณิชย์และอื่นๆ หรือ Multi-platform Commerce (MPC) ซึ่งทำรายได้โดดเด่นต่อเนื่อง ในไตรมาส 2 นี้มีรายได้มากกว่า504 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นผลมาจากการคัดสรรสินค้าที่ได้คุณภาพ ความคุ้มค่า และบริการดีเยี่ยม ทั้งกลุ่มเฮลท์แอนบิวตี้ (Health and Beauty) และกลุ่มโฮมแอนไลฟ์สไตล์ (Home and Lifestyle) ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้ในครัวเรือนเครื่องแต่งกาย และเครื่องประดับ ที่ทยอยเปิดตัวอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้ตอบโจทย์เจาะกลุ่มคนยุคใหม่ทุกมิติของชีวิตที่ใส่ใจดูแลคุณภาพชีวิต สุขภาพร่างกาย และความสะดวกสบาย รวมถึงบริการยกระดับคุณภาพชีวิต หนุนด้วยธุรกิจสื่ออย่าง "ช่อง 8" ที่มีคอนเทนต์ที่แข็งแรงและมีเรตติ้งอยู่ในกลุ่มผู้นำของประเทศ

แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังดีขึ้น เนื่องด้วยได้ปัจจัยบวกหลายด้าน ทั้งจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจที่ช่วยกระตุ้นกำลังการซื้อของผู้บริโภค และการวางกลยุทธ์เชิงรุกธุรกิจใหม่ MPC ได้รุกจับมือกับคู่ค้าหรือพันธมิตร (Strategic Partner) เพิ่มสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อผนึกพลังและต่อยอดธุรกิจให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดแบบทางลัดและขยายตัวได้รวดเร็ว ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและเร่งการเติบโตทั้งรายได้และกำไรอย่างยั่งยืน รวมทั้งเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (SKU) ทั้งกลุ่มสกินแคร์ แฮร์แคร์ และอาหารเสริม สินค้าประเภทใหม่ๆ ของกลุ่มโฮมแอนไลฟ์สไตล์ รวมถึงบริการทางด้านการตลาดต่างๆ ทั้งการประกันภัย และบริการอื่นๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายและโอกาสทางการขายมากขึ้น อีกทั้งการบริหารข้อมูลลูกค้าที่เติบโตขึ้นรวมกันทุกช่องทางเกือบ 1ล้านรายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และการเพิ่มทีมคอลเซ็นเตอร์ทั้งในแง่จำนวนและประสิทธิภาพในการปิดการขาย โดยมีพันธมิตรหลายรายสนใจและเจรจาขอนำสินค้าคุณภาพมาขายผ่านช่องทาง Telesales ของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ "ช่อง 8" ได้ทุ่มเติมคอนเทนต์ใหม่ครบทุกรส ไม่ว่าจะเป็น ซีรีส์อินเดีย ละครไทย ข่าว มวย เพื่อตอกย้ำคอนเซ็ปต์ "เข้มทุกเรื่องราว สุดทุกอารมณ์" ถือเป็นการเปิดเกมรุกได้ตรงกับจังหวะและโอกาสช่วงเม็ดเงินโฆษณากลับมาพอดี จึงเชื่อมั่นผังใหม่ถูกใจผู้ชมทั้งประเทศดันเรตติ้งพุ่งทะยาน โดยคอนเทนต์แม่เหล็กในไตรมาส 3 คือ "ซีรีส์อินเดียฟอร์มยักษ์ 2 เรื่อง 2 รส ได้แก่ ตำนานมหาเทพแห่งความสำเร็จ "พิฆเนศ มหาเทพไอยรา" ใช้ทุนสร้างระบบแอคชั่นแฟนตาซีด้านซีจีกว่าพันล้านทำเรตติ้งสูงสุดของอินเดีย และซีรีส์แนวโรแมนติกดราม่าที่ครองใจคนอินเดียทั่วประเทศ "แผนรัก ลวงใจ (Iss Pyaar Ko Kya Naam Doon)" การันตี 13 รางวัลคุณภาพทั้งนักแสดงนำยอดเยี่ยมชายหญิงอย่าง "บารุณ ซอปติ" และ "ซานาย่า อิรานี" ที่กำลังโด่งดังทั่วเอเชียในขณะนี้

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับเชิญจากบริษัทหลักทรัพย์หลายแห่ง เพื่อพบปะนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ โดยเข้าร่วมงาน Thailand Focus พบปะกับนักลงทุนสถาบันในไทย รวมถึงในประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และสิงคโปร์ ตั้งแต่ไตรมาส 3เป็นต้นไป บริษัทฯ จะเดินสายนำเสนอข้อมูลที่ประสบความสำเร็จจากการพัฒนาสู่การเป็นตลาดค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ใช้โมเดล MPC เชื่อมั่นว่าจะมีกระแสตอบรับที่ยอดเยี่ยมจากนักลงทุนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา และคาดว่าหลังการเดินสายโรดโชว์จะได้เห็นสัดส่วนนักลงทุนสถาบันระยะยาวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับราคาหุ้น และเป็นการส่งสัญญาณอันดีอันเป็นการการันตีถึงคุณภาพของบริษัทฯ

"อย่างไรก็ดี เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2561 ในอัตรา 0.25 บาทต่อหุ้น เป็นเงินทั้งสิ้น 242 ล้านบาท ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีสะท้อนสภาพคล่องและมีศักยภาพทางการเงินของบริษัท ทำให้สามารถจ่ายปันผลตอบแทนแก่ผู้ถือหุ้นได้" นายดามพ์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ