นายเจริญ รุจิราโสภณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SORKON ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 2/61 (เมษายน-มิถุนายน 2561) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 66.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 36.3 ล้านบาท และมีรายได้รวม 765.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้รวม 705.7 ล้านบาท โดยปัจจัยความสำเร็จมาจากกลุ่มธุรกิจอาหารแปรรูปเนื้อสัตว์ (อาหารพื้นเมือง, อาหารขบเคี้ยวและอาหารแช่แข็งพร้อมทาน) ซึ่งเป็นสัดส่วนรายได้หลักของบริษัทฯ ทำยอดขายเติบโตขึ้น 8.8% หรือจาก 359.5 ล้านบาท เพิ่มเป็น 391.0 ล้านบาทในไตรมาสนี้ รองลงมาได้แก่ กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ที่ทำยอดขายเติบโต 7.3% หรือเพิ่มเป็น 253.2 ล้านบาท จากไตรมาสเดียวกันปีก่อนที่ทำได้ 235.8 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการบริหารต้นทุนการผลิตที่มีประสิทธิภาพส่งผลดีต่ออัตรากำไรขั้นต้นที่ดี จึงช่วยสนับสนุนการดำเนินงานในไตรมาสนี้ให้เติบโตโดดเด่นอย่างต่อเนื่องและมีผลให้ภาพรวมการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2561) ทำกำไรสุทธิ 117.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.0% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 65.8 ล้านบาท และมีรายได้รวม 1,462.3ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา
"เราประสบความสำเร็จในการผลักดันผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61 และในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้ ที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น และเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัทฯ ซึ่งเป็นผลมาจากการให้ความสำคัญกับการรุกทำตลาดผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปจากเนื้อสัตว์และธุรกิจอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งเป็นพอร์ตรายได้หลักเติบโตได้ดี ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ สะท้อนถึงศักยภาพการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของ ส. ขอนแก่นได้เป็นอย่างดี" นายเจริญ กล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2561 ได้เห็นชอบอนุมัติให้ 'ดร.ทนง พิทยะ' อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ามาดำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ แทนนายสมชาย สกุลสุรรัตน์ ตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม 2561 เพื่อร่วมกำหนดยุทธศาสตร์และทิศทางการดำเนินงานของ SORKON เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในธุรกิจในระยะยาวขององค์กร ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ ต่อไป