ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (D) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อยในไตรมาส 2/61 มีรายได้รวม 127.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.87 ล้านบาท หรือ 27% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 100.34 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 10.23 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 10.05 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้สาขาเดิมที่เติบโตและฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น หลังเข้าซื้อกิจการ 3 คลินิกใหม่ ในช่วงปลายไตรมาส 1/61 ก่อนปรับโฉมใหม่ใช้แบรนด์ Dental Planet จับกลุ่มลูกค้าชาวไทยและผู้บริโภคที่มีรายได้ระดับปานกลาง โดยเริ่มรับรู้รายได้ในไตรมาส 2/61 เข้ามาเต็มไตรมาส
สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 มีรายได้รวม 249.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.39 ล้านบาท หรือ 14% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้รวม 218.17 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 22.55 ล้านบาท
"แนวโน้มผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดว่าจะทำสถิติสูงสุดใหม่ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ โดยได้รับอานิสงส์จากการเข้าซื้อ 3 คลินิกใหม่ ซึ่งเริ่มรับรู้รายได้ไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา รวมไปถึงการที่บริษัทฯได้เข้าไปซื้อกิจการธุรกิจเกี่ยวกับวัสดุ และอุปกรณ์ด้านทันตกรรม มูลค่าลงทุนกว่า 250 ล้านบาท เพื่อเข้ามาต่อยอดธุรกิจเดิม โดยได้รับโอนสินทรัพย์ในการดำเนินธุรกิจเข้ามาตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงาน หนุนอัตรากำไรขั้นต้นกลุ่มธุรกิจให้ปรับตัวดีขึ้น"
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา มีมติอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.09 บาท/หุ้น ขึ้นเครื่องหมายXD วันที่ 27 สิงหาคม 2561 กำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 10กันยายน 2561
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (D) กล่าวอีกว่า การเข้าซื้อกิจการคลินิกทันตกรรมทั้ง 3 แห่ง และการแตกไลน์ธุรกิจวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรม ถือเป็นการขยายแหล่งที่มาของรายได้ และต่อยอดธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผลักดันให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบันบริษัทฯมีศูนย์ทันตกรรม และคลินิกทันตกรรมทั้งหมด 16 สาขา ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ 14 สาขา และภูเก็ต 2 สาขา ดำเนินการภายใต้ 'BIDC' 1สาขา,Dental Signature 4 สาขา 'Smile Signature' 8 สาขา และ 'Dental Planet '3 สาขา
ส่วนการก่อสร้างโรงพยาบาลทันตกรรมเอกชนเฉพาะทาง ย่านเพลินจิต มูลค่ากว่า 450 ล้านบาท คาดว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และพร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปี 2562 ตามแผน โดยเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ ชาวไทยที่มีรายได้ระดับปานกลางถึงบน ปูทางสู่ความเป็นเบอร์หนึ่งในธุรกิจทันตกรรมของเมืองไทย และคาดว่ารายได้และกำไรในช่วง 5 ปีข้างหน้า เติบโตอย่างก้าวกระโดด