ซูบารุเปิดตัว ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ (The All-New Forester) ดีไซน์ใหม่เหนือระดับทั้งภายในและภายนอก

อังคาร ๑๔ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๖:๑๙
มอเตอร์ อิมเมจ (Motor Image) ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุใน 8 ประเทศทวีปเอเชียเปิดตัว The All-New 2019 Forester อย่างเป็นทางการที่ไต้หวัน

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ (The All-New Forester) กลับมาพร้อมกับการปรับโฉมใหม่และประโยชน์ใช้สอยที่มากขึ้น เพื่อความสบายและความเพลิดเพลินสูงสุด ในครั้งนี้ ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ (The All-New Forester) ได้ถูกปรับโครงสร้าง ภาพลักษณ์ ดีไซน์ และคุณสมบัติใหม่ๆ มากมายให้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความสมดุล ความสะดวกสบายในการควบคุมรถ การตกแต่งภายในที่กว้างขวาง และความปลอดภัยที่ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งสำหรับซูบารุ อาทิ ระบบป้องกันภัยก่อนเกิดอุบัติเหตุ (Active Safety) และระบบช่วยขับขี่ (Driver Assistance) อีกทั้งยังมีคุณสมบัติที่โดดเด่นและเพียบพร้อมที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีหลักของซูบารุ (Subaru Core Technologies) ซึ่งได้แก่

- ซูบารุโกลบอลแพลตฟอร์ม (Subaru Global Platform)

- ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive)

- เครื่องยนต์แบบ Boxer

- เทคโนโลยี EyeSight Driver Assist

มร. เกลน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า "ดิ ออล-นิว ฟอเรสเตอร์ (The All-New Forester) รุ่นล่าสุดนี้มีขนาดใหญ่ขึ้น และประสิทธิภาพที่เหนือชั้นมากยิ่งขึ้นด้วยการยกระดับเทคโนโลยีอย่างรอบด้านทั้งภายในและภายนอก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์เป็นรถ SUV ที่เปี่ยมสมรรถนะความสะดวกสบายและความปลอดภัยสูงสุด บริษัทฯ ยินดีอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัว ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ รุ่นที่ห้า และมั่นใจว่ารถยนต์รุ่นนี้พร้อมจะมอบประสบการณ์อันแสนประทับใจให้กับผู้ขับขี่อย่างแน่นอน"

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) ครั้งนี้มาด้วยกันทั้งหมด 4 รุ่น

- ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-S EyeSight

- ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-S

- ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ 2.0 i-L EyeSight

- ซูบารุ 2.0 i-L

ความสามารถในการขับขี่และเทคโนโลยีอันยอดเยี่ยม

คุณลักษณะเฉพาะของรถยนต์ซูบารุคือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) ที่ส่งแรงขับเคลื่อนให้กับล้อแต่ละล้อ ช่วยให้รถเกาะถนนได้อย่างมั่นคงและช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถได้อย่างปลอดภัยสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางในทุกสภาพภูมิประเทศ และทุกสภาพถนนที่ท้าทาย ดิ ออล-นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) นอกจากนี้ยังมีขุมพลังจากเครื่องยนต์ Boxer ระบบไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งจะช่วยเพิ่มแรงม้าและประสิทธิภาพในการใช้เชื้อเพลิง อันนำไปสู่ความเพลิดเพลินในการขับขี่ นอกจากนี้ ยังมีระบบเกียร์ CVT 7 สปีดที่ช่วยให้สามารถเร่งความเร็วรถได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น

และอีกหนึ่งสิ่งที่รวมอยู่ในการปรับโฉมของ ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) ก็คือซูบารุโกลบอลแพลตฟอร์ม (Subaru Global Platform) และโครงรถที่ได้รับการออกแบบใหม่ ซึ่งตัวซูบารุโกลบอลแพลตฟอร์ม (Subaru Global Platform) จะมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ปลอดภัยและราบรื่นยิ่งขึ้นด้วยระบบลดแรงสั่นสะเทือนและการแกว่งของตัวรถ ที่จะช่วยลดเสียงรบกวนจากถนนแม้ว่ารถจะกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง เพื่อให้การสนทนาในห้องโดยสารของคุณรื่นรมย์ยิ่งขึ้น

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่น X-MODE ที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะในการขับขี่บนภูมิประเทศที่ท้าทาย โดยใช้ระบบควบคุมเครื่องยนต์แบบบูรณาการ ทั้งการขับเคลื่อน All-Wheel Drive ระบบเบรก และระบบอื่นๆ ผู้ขับขี่สามารถเปิดใช้งาน X-MODE ได้ที่สวิตช์แบบหมุนในโหมด Select ที่สามารถสลับโหมดต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและท่วงทันกับสภาพถนนที่เปลี่ยนแปลงได้ทันที ตบท้ายด้วยฟังก์ชั่นควบคุมการขับรถลงเนินที่จะรักษาความเร็วรถให้ต่ำ ขณะลงเนินเขาที่ลาดชัน ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกอุ่นใจยิ่งขึ้น

การควบคุมรถใน ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) ได้รับการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นเพราะมีระบบกระจายแรงบิด (Active torque vectoring) ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมยานพาหนะได้ดังใจสั่ง หลีกเลี่ยงอันตรายด้วยการเข้าโค้งที่ดีเยี่ยมและมั่นคง การควบคุมรถที่แม่นยำนี้เป็นผลมาจากการใช้เบรกกับล้อด้านใน ซึ่งจะกระจายแรงบิดไปยังล้อด้านนอก เมื่อจำเป็นต้องเข้าโค้งที่แคบ

คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่น่าประทับใจ

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) มีคุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่โดดเด่นได้รับการการันตีด้วยรางวัลมากมาย ทำให้ผู้ใช้รถอุ่นใจในทุกๆ การขับขี่ ซึ่งหนึ่งในเทคโนโลยีขั้นสูงตัวใหม่ในครั้งนี้ก็คือ ระบบช่วยในการขับขี่ EyeSight ซึ่งประกอบไปด้วยระบบเบรกอัตโนมัติก่อนการชน ระบบถอนคันเร่งก่อนการชน ระบบปรับความเร็วรถอัตโนมัติ ระบบเตือนเมื่อการจราจรเคลื่อนที่ ระบบ เตือนเมื่อออกจากเลน และเมื่อขับรถส่าย คุณลักษณะนี้มีอยู่ในรถทุกรุ่นของ ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester)

นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติต่างๆ เช่น ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold) และระบบตรวจจับยานพานะด้านหลัง (SVRD) ก็มีอยูในรุ่นใหม่นี้ด้วย โดยระบบป้องกันการไหลของรถจะช่วยลดความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ ซึ่งจะรักษาให้ตัวรถนิ่งขณะที่ความเร็วรถช้าลงเมื่อคนขับถอนเท้าออกจากเบรก ระบบตรวจจับยานพาหนะด้านหลังใช้เซ็นเซอร์เรดาร์ที่ติดตั้งอยู่ที่ด้านหลังของรถ เพื่อตรวจจับวัตถุและยานพาหนะที่อยู่ข้างหลัง และจะแจ้งเตือนคนขับด้วยฟังก์ชั่นหลัก 3 อย่าง ได้แก่ การแจ้งเตือนในจุดบอด การช่วยเปลี่ยนเลน และการแจ้งเตือนเมื่อการจราจรข้างหลังเคลื่อนที่ ตัวโดยรูปภาพบนหน้าปัดสว่างขึ้น หากมีการตรวจพบยานพาหนะในจุดบอด และเมื่อคนขับส่งสัญญาณการเปลี่ยนเลน ระบบจะแจ้งเตือนหากมีรถจากเลนข้างๆ เคลื่อนที่ใกล้เข้ามา ทัศนวิสัยก็เพิ่มขึ้นด้วยกระจกมองข้างที่ช่วยให้มองเห็นจุดบอดรอบๆ ล้อหลังได้ดีขึ้น เพื่อการถอยรถและจอดรถอย่างไร้กังวล ยังไม่รวมถึงมุมมองระดับสายตาที่ดีเยี่ยม และการปรับรูปทรงของเสารถเพื่อลดจุดบอดและให้การมองเห็นที่ครอบคลุมมากขึ้น

ความคล่องตัวและห้องโดยสารที่สะดวกสบาย

ด้วยระยะระหว่างพื้นกับตัวรถมากกว่า 220 มม. ราวหลังคาที่ยกสูงขึ้นและจุดสำหรับผูกเชือก ทำให้ ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) พร้อมสำหรับการบรรทุกสัมภาระได้มากขึ้น เพื่อการผจญภัยทุกรูปแบบ และประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ การออกแบบภายในใหม่ยังนำเสนอมิติใหม่ที่น่าสนใจที่จะทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนได้รับความสะดวกสบายมากขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวัน และสามารถพักผ่อนหย่อนใจในรถยนต์ของตัวเองได้ โถงภายในรถกว้างขึ้นเพราะเบรกมือแบบเดิมถูกย้ายออก แล้วแทนที่ด้วยเบรกใหม่แบบไฟฟ้า เป็นการคืนพื้นที่ตรงคอนโซลกลางรถให้โล่งขึ้น คุณสมบัติอื่นๆ ได้แก่ ช่องใส่ของหลังเบาะรถแบบหลายช่อง พอร์ตชาร์จ USB และช่องลมสำหรับเครื่องปรับอากาศที่คอนโซลกลาง ทั้งหมดนี้จะช่วยมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สดชื่นสำหรับผู้โดยสาร แผงหน้าปัดยังมาพร้อมกับจอแสดงผลอเนกประสงค์คุณภาพสูง และจอแสดงผลมิเตอร์ต่างๆ ที่มีการประสานงานกันมากขึ้น ช่วยให้ผู้ขับขี่รับรู้ถึงสถานะของยานพาหนะและข้อมูลที่สำคัญอย่างเข้าใจง่ายและชัดเจน ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายความปลอดภัยและความเพลิดเพลิน

พื้นที่วางขาที่กว้างขึ้นในห้องโดยสารด้านหลัง พื้นที่บรรทุกสัมภาระที่ใหญ่ขึ้นพร้อมกับช่องเปิดท้ายรถที่กว้างขึ้น ประตูพาวเวอร์ด้านหลัง ช่วยให้สามารถเปิด-ปิด และล็อคประตูทุกด้านของรถได้ด้วยการกดเพียงปุ่มเดียว ทำให้ ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) มีประโยชน์ใช้สอยที่มากขึ้น และขนของได้มากกว่าเดิม

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) คือการสร้างสรรค์ที่มาพร้อมความยั่งยืน ตัวรถสร้างจากเหล็กที่มีความแข็งแรงสูง มอบความทนทานและความแข็งแกร่งตามแบบฉบับของรถ SUV โครงสร้างตัวถังที่ยกขึ้น วัสดุหุ้มรถใหม่ และชุดกันชนที่นูนออกมามากขึ้น กระจังรอบไฟหน้า และไฟท้ายที่ตกแต่งใหม่ด้วยรายละเอียดที่ดูสวยงามกลมกลืน แต่แฝงไว้ด้วยความแข็งแรงและความหรูหรา ล้วนเป็นการออกแบบใหม่ที่ยังคงไว้ซึ่งเสน่ห์ของรถรุ่นก่อนหน้า

ดิ ออล นิว ฟอเรสเตอร์ 2019 (The All-New 2019 Forester) คือการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างเทคโนโลยีที่เหนือกว่า ดีไซน์ที่สมาร์ท และวิศวกรรมขั้นสูง ทำให้ผู้ใช้รถได้รับความเพลิดเพลินในการขับขี่ที่ดีที่สุด ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดดังเช่นที่เป็นมาตลอด

* ข้อมูลจำเพาะและรุ่นของรถยนต์อาจแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.subaru.asia/th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมทั่วประเทศตามข้อมูลด้านล่างหลังจากเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย

เกี่ยวกับตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล

Tan Chong International (HKSE: 0693) เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกงและเป็น บริษัทสำคัญในภาคธุรกิจยานยนตร์ สังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการจัดจำหน่าย ที่มีการดำเนินงานในสิงคโปร์กัมพูชา, จีน, ฮ่องกง, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, ไทย และเวียดนาม นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2500 ทรัพย์สินของบริษัทในเครือมีการเติบโตอย่างมากโดยการขยายธุรกิจที่หลากหลายขึ้นและทำอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการผลิต การจัดจำหน่ายและการค้าปลีก

เกี่ยวกับมอเตอร์ อิมเมจ

มอเตอร์ อิมเมจ เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ซูบารุอย่างเป็นทางการในประเทศสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2529 โดยมีสำนักงานใหญ่ในสิงคโปร์ และเปิดสาขาในประเทศกัมพูชา ฮ่องกง อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ประเทศจีนตอนใต้ ไต้หวัน ไทยและเวียดนาม กลุ่มมอเตอร์ อิมเมจ เป็นบริษัทลูกในเครือของ Tan Chong International Limited (TCIL) ซึ่งเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกง ที่ร่วมมือกับ Subaru Corporation ที่ได้ประกาศเปลี่ยนชื่อจาก Fuji Heavy Industries เมื่อไม่นานมานี้ ในการประกอบรถยนต์ซูบารุภายในประเทศมาเลเซีย มีการลงนามในข้อตกลงในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวเน้นการใช้ประโยชน์ของโรงงานประกอบรถยนต์ยี่ห้อซูบารุที่มีอยู่แล้วของตันจงเพื่อการทำตลาด และจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย และในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 Subaru Corporation ได้ประกาศร่วมทุนกับ TC Manufacturing and Assembly (Thailand) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือของ Tan Chong International Limited (TCIL) เพื่อการประกอบรถยนต์ซูบารุในไทย และกระจายสู่ตลาดต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ รถยนต์ซูบารุที่ผลิตขึ้นในมาเลเซียและไทยจะถูกจัดจำหน่ายโดยมอเตอร์ อิมเมจ ผ่านเครือข่ายของซูบารุ www.subaru.asia

เกี่ยวกับซูบารุ

ซูบารุได้มีการก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2498 และตั้งแต่นั้นมาได้เติบโตขึ้นจนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำของโลกในปี พ.ศ. 2515 ซูบารุกลายเป็นบริษัทแรกของโลก ที่ทำตลาดรถยนต์นั่งแบบขับเคลื่อนทุกล้อ(AWD) และเป็นผู้บุกเบิกตลาดในประเทศญี่ปุ่นสำหรับรถยนต์นั่ง station wagon ประสิทธิภาพสูงโดยรวม เอาเครื่องยนต์เทอร์โบชาร์จ ประกอบเข้ากับระบบ AWD บริษัทซูบารุมีการปรับปรุงระบบ AWD ของตนอย่างประณีต เพื่อสร้างระบบ AWD ที่มีสมรรถนะ และความปลอดภัยสูงสามารถสร้างความเพลิดเพลินในการขับขี่ให้กับเจ้าของซูบารุเป็นที่รู้จักกันโดยองค์กรยานยนต์ระดับนานาชาติ สำหรับงานด้านวิศวกรรมการออกแบบ การใช้งาน ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ รถยนต์ซูบารุมีหลายรุ่น ตั้งแต่ BRZ, Forester, Impreza, Legacy, Levorg, Outback, WRX, WRX STI และ XV โดยทุกรุ่นได้รับการยอมรับและรู้จักกันว่า เป็น "driver's cars" เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีที่เป็นหัวใจสำคัญ อย่างเช่นการขับเคลื่อนทุกล้อแบบสมมาตร (Symmetrical All-Wheel Drive) และเครื่องยนต์ Subaru Boxer ในรถซูบารุทุกรุ่น และนี่เองที่ทำให้การขับรถซูบารุคือความสุขของการใช้ชีวิต www.subaru-global.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ