นายวิทวัส ตันติเวสส รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านการตลาดกลาง ซีพีเอฟ เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์ไส้กรอกยังคงเป็นอาหารว่างอันดับหนึ่งในใจผู้บริโภค เนื่องจากมีรสชาติอร่อย สะดวก รับประทานง่ายและช่วยให้อิ่มท้องได้ โดยมูลค่าตลาดรวมของไส้กรอกในปี 2018 นี้อยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และไส้กรอกซีพีมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 อยู่ที่ประมาณ 19 %
"ความเป็นผู้นำของไส้กรอกซีพีนี้ยังเป็นตัวอย่างให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆที่เข้ามาในตลาด หันมาผลิตไส้กรอกที่ดี มีคุณภาพในมาตรฐานเช่นเดียวกัน ถือเป็นการช่วยยกระดับคุณภาพของไส้กรอกในประเทศให้ดีขึ้น เพื่อให้คนไทยมีไส้กรอกคุณภาพดีๆทานกันมากขึ้น ขณะเดียวกันไส้กรอกซีพี ก็จะเพิ่มความหลากหลายทั้งรูปแบบและรสชาติ เพื่อให้เหมาะกับผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย" นายวิทวัสกล่าว
ปัจจุบัน ไส้กรอกซีพีมีกลุ่มผลิตภัณฑ์ไส้กรอกอย่างหลากหลาย อาทิ กลุ่มซีพีแฟรงค์, กลุ่มซีพีโบโลน่า, กลุ่มซีพีมินิคอกเทล โดยทีมวิจัยและพัฒนาอาหารจะศึกษาเทรนด์อาหารใหม่ๆ จากทั่วโลก เพื่อที่จะสร้างความแปลกใหม่ อันเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการรักษาฐานกลุ่มลูกค้าในปัจจุบัน และดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมโปรโมชั่นต่างๆอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่โดนใจกลุ่มผู้บริโภค
ทั้งนี้การคัดเลือกพรีเซ็นเตอร์สำหรับแบรนด์ไส้กรอกซีพี เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งที่สร้างความประทับใจแก่กลุ่มเป้าหมายมาโดยตลอด ซึ่งไส้กรอกซีพีจะเลือกบุคคลที่มีบุคลิกลักษณะตรงตามลักษณะของแบรนด์ คือ มีความสนุกสนาน (Fun), ชอบสังสรรค์ (Socialized), ชอบความท้าทาย (Challenging) มีความตั้งใจ เอาใจใส่ในการทำงาน (Passion) เพื่อให้งานออกมาดี เหมือนกับ ไส้กรอก CP ที่เราเอาใจใส่ในเรื่องคุณภาพ และความปลอดภัยของผู้บริโภค เพื่อให้มั่นใจว่า ทุกคำในทุกแพ็คของไส้กรอกซีพี จะอร่อย สะอาด ปลอดภัย เพราะ "ทุกคำมีความหมาย"
สำหรับพรีเซ็นเตอร์คนปัจจุบัน คือ "แบมแบม GOT7" หรือ นายกันต์พิมุกต์ ภูวกุล จัดเป็นศิลปินคนไทยรุ่นใหม่ที่สามารถสร้างชื่อเสียงโด่งดังในต่างประเทศ และมีคาแรกเตอร์ที่สอดคล้องกับไส้กรอก ซีพี ดังกล่าว ตลอดจนตอกย้ำได้ว่า คนไทยมมีความสามารถก้าวสู่ระดับโลกได้ เช่นเดียวกับวิสัยทัศน์ของบริษัทซีพีเอฟที่มุ่งสู่การเป็น "ครัวของโลก" ได้เช่นกัน
ภายใต้แคมเปญ ไส้กรอกยังไงก็ต้อง CP จึงมีกิจกรรมเพื่อกลุ่มลูกค้าโดยจัดเป็นแฟนมีตติ้งของ แบมแบม ที่มีผู้บริโภคสนใจร่วมกิจกรรมมากถึงกว่าหมื่นคน นับเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ประสบความสำเร็จและตอกย้ำความเป็นเจ้าตลาดของไส้กรอกซีพีได้เป็นอย่างดี
ด้าน นายณฤกษ์ มางเขียว รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านธุรกิจอาหารสำเร็จรูป ซีพีเอฟ กล่าวว่า อีกปัจจัยสำคัญในการครองตลาดไส้กรอกเป็นอันดับ 1 นั่นคือคุณภาพและรสชาติความอร่อย กระบวนการผลิตไส้กรอกของซีพีเอฟ เริ่มจากการคัดเลือกวัตถุดิบเนื้อสัตว์คุณภาพดีจากฟาร์มของซีพีเอฟที่มีเทคโนโลยีการผลิตไก่และสุกรปลอดสารที่ก้าวหน้าและมีมาตรฐาน จากนั้นจะเข้าสู่โรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์ที่ทันสมัยภายใต้การรับรองมาตรฐานการส่งออก มีการตัดแต่งเนื้อหมูเนื้อไก่แยกชิ้นส่วน เช่น สันใน สันนอก สะโพก ฯลฯ โดยวัตถุดิบเนื้อจะถูกขนส่งมายังโรงงานผลิตไส้กรอก โดยควบคุมอุณหภูมิเย็นตลอดเวลา เพื่อให้ได้เนื้อสัตว์ที่สด สะอาด ปลอดภัย
นอกจากนี้ ยังมีการเลือกใช้เครื่องปรุงจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐานทั่วโลก รวมถึงการใช้เครื่องรมควันระบบปิด ซึ่งเป็นการรมควันที่ปลอดภัย ไร้สารทาร์และไม่ใช้ดินประสิว โดยนำนโยบายคุณภาพและนโยบายความปลอดภัยด้านอาหารตามมาตรฐานสากลมาเป็นกลไกสำคัญในการผลิตทุกขั้นตอน ที่สำคัญไส้กรอกซีพีใช้กระบวนการผลิตอัตโนมัติแบบต่อเนื่องเป็นแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียเพื่อลดการปนเปื้อน กระทั่งได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี รสชาติอร่อย มีความเป็นเอกลักษณ์ เป็นไปตามข้อกำหนดและกฎหมาย สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ในทุกขั้นตอน สร้างความพึงพอใจและความปลอดภัยสูงสุดให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ถึงความสด สะอาด ปลอดภัยของไส้กรอกซีพี
ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ไส้กรอกของบริษัทฯ ผ่านการรับรองมาตรฐานมากมาย อาทิ มาตรฐานระบบคุณภาพและความปลอดภัยในอาหารของสหภาพยุโรป (The British Retail Consortium หรือ BRC), HACCP, ISO 9001, ISO 14001, ISO 18000
"ด้วยมาตรฐานอาหารปลอดภัยและคุณภาพสูง ผลิตด้วยเทคโนโลยีระดับโลก ผ่านการรับรองมาตรฐานสินค้าอาหารสากลหลายสถาบัน ทั้งในสหรัฐ สหภาพยุโรป และเอเซีย จึงทำให้ไส้กรอกซีพีครองใจผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ตลอดมา" นายณฤกษ์กล่าวทิ้งท้าย .