CHOW โชว์ผลงานสวย! Q2/61 กำไรพุ่งกว่า 115% มั่นใจปีนี้ยังเติบโตแข็งแกร่งทั้งธุรกิจพลังงาน/เหล็ก

พฤหัส ๑๖ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๐๗
CHOW กลับมาโชว์ฟอร์มสวย ไตรมาสที่ 2/2561 กำไรสุทธิ 161.26 ลบ. พุ่งกว่า 115% จากกำไร 74.93 ลบ.ใน Q2/60 หลังธุรกิจพลังงานโรงไฟฟ้าในญี่ปุ่นรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญและขายเหล็กต้นน้ำได้มากขึ้น "อนาวิล จิรธรรมศิริ" ตอกย้ำความมั่นใจระบุ CHOW มีแผนดำเนินธุรกิจที่มั่นคง สำหรับรองรับการขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต

นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงานประเภทโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวด 3 เดือนประจำไตรมาส 2 สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 ว่า บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวม 1,691.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 473.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 38.89 เมื่อเทียบกับปี 2560 ที่มีรายได้รวมจำนวน 1,218.13 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาสที่ 2/2561 บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิ จำนวน 161.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86.33 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 115.21 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 ที่มีกำไรสุทธิ 74.93 ล้านบาท

การปรับเพิ่มขึ้นของผลประกอบการในไตรมาสที่ 2/2561 ส่งผลให้ผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2561 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อยเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในงวด 6 เดือนแรกของปี บริษัทฯ และบริษัทย่อยมีรายได้รวมจำนวน 2,336.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 542.90 ล้านบาท หรือร้อยละ 30.27 เมื่อเทียบกับรายได้จำนวน 1,793.32 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากรายได้จากการจำหน่ายเหล็กเพิ่มขึ้น และรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้า รวมทั้งมีกำไรจากการจำหน่ายโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 1 โครงการขนาด 4.02 เมกะวัตต์ดีซี ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธการขายโครงการเพื่อสร้างผลกำไรที่สูงขึ้น

สำหรับธุรกิจเหล็กในครึ่งแรกของปี 2561 บริษัทฯมีปริมาณการขายเหล็กจำนวน 111,000 ตัน เพิ่มขึ้น 50,000 ตัน คิดเป็นร้อยละ 81 หรือ คิดเป็นจำนวนเงินจำนวน 1,788 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 912 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 104 เมื่อเทียบกับปี 2560 เนื่องจากความต้องการเหล็กทั้งในประเทศและต่างประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นรวมทั้งราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยบริษัทฯสามารถผลิตและขายเหล็กแท่งเพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ส่วนธุรกิจพลังงาน บริษัทฯ มีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจำนวน 332 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนจำนวน 78 ล้านบาท เนื่องจากมีโครงการที่มีรายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจำนวน 3 โครงการ โดยบริษัทฯ ได้รวมรายได้จาก 2 โครงการซึ่งมีกำลังการผลิตจำนวน 23.70เมกะวัตต์ ดีซี ในเดือนมีนาคมและเมษายน 2560 และอีกหนึ่งโครงการกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 26.68 เมกะวัตต์ดีซี ซึ่งได้เริ่มรับรู้รายได้การจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเดือนเมษายน 2561 นอกจากนั้น ยังรับรู้รายได้จากการจำหน่าย หน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจำนวน 212 ล้านบาท และมีกำไรจากการขายโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่น ตามแผนธุรกิจจำนวน 157 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม ในครึ่งแรกของปี 2561 ถึงแม้ธุรกิจเหล็กจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่เนื่องจากบริษัทฯ ยังมีต้นทุนการผลิตที่ค่อนข้างสูงจากช่วงต้นปีที่บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการ เตรียมความพร้อมการเปิดผลิตโรงงานเฟสที่ 1 ซึ่งได้หยุดผลิตไปนานประมาณ 3 ปี เพื่อให้สามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติ ประกอบกับราคาตลาดของวัตถุดิบผันผวนสูงขึ้นเร็วกว่าการปรับตัวของราคาขาย จึงส่งผลให้ธุรกิจเหล็กยังมีผลดำเนินงานขาดทุนอยู่จำนวน 46 ล้านบาท สะท้อนให้ในครึ่งแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 84.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิจำนวน 50.29 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 67.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิส่วนของบริษัทใหญ่จำนวน 38.19 ล้านบาท

นายอนาวิล กล่าวต่อถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 2561 ว่า ยังมีทิศทางที่ดีทั้งธุรกิจเหล็กและพลังงาน โดยธุรกิจเหล็ก ความต้องการเหล็กทั้งในประเทศและต่างประเทศยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนการขายทั้งปีจำนวน 270,000 ตัน แบ่งเป็นการขายต่างประเทศซึ่งได้ทำบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ TATA INTERNATIONAL METALS (ASIA) LIMITED จำนวน 100,000 ตัน และขายในประเทศจำนวน 170,000 ตัน ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าผลการดำเนินงานในปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยสำคัญ ในขณะที่ธุรกิจพลังงานบริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจที่วางไว้ โดยคาดว่าจะรับรู้รายได้จากการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นที่กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 5 โครงการ มีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้ารวม 14.28 เมกะวัตต์ดีซี ซึ่ง 4 โครงการ มีแผนการก่อสร้างแล้วเสร็จตามกำหนดในไตรมาสที่ 4 ปี 2561 ซึ่งคาดว่าจะสะท้อนให้ผลประกอบการของ CHOW ในปีนี้เติบโตโดดเด่นได้ตามแผนงานที่วางไว้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO