ดร.อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (AJA) เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปีนี้ (สิ้นสุด 30 มิ.ย.2561) มีรายได้รวมอยู่ที่ 476.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.86 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 422.04 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ จำนวน 19.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 247.40 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 108.75 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 227.50 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่รายได้เพิ่มขึ้น เกิดจากการจำหน่ายเงินลงทุนในหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท เวนดิ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (VDC) จำนวน 43.02 ล้านบาท และรายได้จากการจำหน่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ (Smart Phone) แท็บแล็ท และอุปกรณ์เสริมของบริษัทย่อย (บริษัท สยามแอดวานซ์ อีเล็คทรอนิค จำกัด) ที่เริ่มดำเนินการเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
ขณะที่ต้นทุนขายเท่ากับ 284.95 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 67.86 ของรายได้จากการขาย โดยอัตราส่วนต้นทุนขายต่อรายได้จากการขายลดลง ร้อยละ 22.16 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเท่ากับร้อยละ 90.01 เนื่องจากบริษัทมีการกลับรายการตั้งสำรองมูลค่าลดลงของสินค้าคงเหลือ ประเภทสินค้ากล่องรับสัญญาณทีวีดิจิตอล (SET TOP BOX) และเครื่องใช้ไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทได้มีการจำหน่ายสินค้ากลุ่มดังกล่าว และมีการจัดงานแสดงสินค้า Expo อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายเร่งระบายสินค้าของบริษัท
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AJA กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทฯคาดว่าผลประกอบการในปีนี้น่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯได้กระจายความเสี่ยงจากธุรกิจหลัก โดยการขยายไลน์ไปในธุรกิจต่างๆ ดังนี้ คือเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle)" ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อย คือ "ไรเซน เอนเนอร์จี" ผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า (EV : Electric Vehicle)" โดย AJA ถือหุ้น 45% ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินโครงการแท็กซี่ วีไอพี ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ภายใต้แบรนด์ BYD e6 จำนวน 1,000 คัน ของกรมขนส่งทางบก โดยได้ส่งมอบรถจำนวน 101 คันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว