สำหรับรูปแบบการจัดกิจกรรมในปีนี้มุ่งนำเสนอแนวคิด "ซินโครตรอนแลนด์…แดนมหัศจรรย์" ซึ่งภายในบูธของสถาบันฯ มีกิจกรรมแสนสนุกมากมาย จากฐานเกมวิทยาศาสตร์ 3 ฐานประกอบด้วย 1.น้องแสงจ้าเรืองแสง 2.วงล้อหาสี และ 3.น้องแสงจ้า MY HERO! และยังมีพื้นที่การแสดงประจำวันที่น่าตื่นตาตื่นใจให้ชมตลอดวัน อาทิ Butterfly Light ทายาทแห่งเปลวไฟ Beauty of light และการแสดงอื่นๆที่น่าสนใจอีกมากมาย นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้มาร่วมสนุกเล่นเกมลุ้นรับของรางวัลสุดเก๋ไก๋ในทุกๆ วัน ตลอดทั้งงานอีกด้วย
ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กล่าวว่า ประชาชนผู้เข้าร่วมงาน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจะได้รับความรู้เกี่ยวกับเรื่องซินโครตรอนผ่านการจัดกิจกรรมต่างๆ โดยจะมีการแสดงกรรมวิธีของแสงซินโครตรอนผ่านอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้การรับข้อมูลทางวิทยาศาสตร์กลายเป็นเรื่องที่สนุกและตื่นเต้นยิ่งขึ้น
เมื่อผู้เข้าร่วมงานแวะมาที่บูธแห่งนี้ สิ่งที่จะได้รับเป็นความรู้พื้นฐานคือ เรื่องแสง ความจริงแล้วแสงเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดหนึ่งแบ่งออกได้เป็น 7 ช่วงตามความยาวของคลื่นและแหล่งกำเนิดของคลื่น ได้แก่ คลื่นวิทยุ, คลื่นไมโครเวฟ, แสงอินฟราเรด, แสงที่ตามองเห็น, แสงอัลตร้าไวโอเล็ต, รังสีเอ็กซ์ และรังสีแกมมา โดยที่สถาบันวิจัยซินโครตรอนสามารถผลิตแสงซินโครตรอนที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ช่วงอินฟราเรดถึงรังสีเอกซ์ครอบคลุมถึง 4 ช่วงความถี่ด้วยกัน
ตลอดในช่วง 10 ปีของการเปิดให้บริการแสงซินโครตรอนและเทคนิคที่เกี่ยวข้อง สถาบันฯ ได้สร้างผลงานชิ้นสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศมากมาย เช่น การสร้างความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมด้านอาหารและการเกษตร โดยกำหนดยุทธศาสตร์ด้านความเข้มแข็งภาคเกษตรกรรมและความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน รวมถึงมีการกำหนดแผนการพัฒนาที่มุ่งเน้นเฉพาะด้านในอุตสาหกรรมอาหาร เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยพัฒนาและสร้างนวัตกรรมเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งความร่วมมือดังกล่าว สามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศได้กว่า 3,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนประชาชนและเยาวชน เข้าเยี่ยมชมบูธของสถาบันแสงซินโครตรอน ได้ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 16-26 สิงหาคม 2561 เวลา 9.00 – 19.00 น. (เข้าชมฟรี) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค (ฮอลล์ 2-8) เมืองทองธานี