วันนี้ (20 สิงหาคม 2561) เวลา 12.30 น. นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า แม้ในขณะนี้ประเทศไทยมีฝนตกกระจายตัวและตกหนักในหลายพื้นที่ และมีบางพื้นที่ประสบเหตุน้ำท่วมนั้น แต่ยังมีพื้นที่บางส่วนของประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่เกษตรอาศัยน้ำฝนบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่กำลังได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำเพื่อทำการเพาะปลูกเนื่องจากประสบภาวะฝนทิ้งช่วง โดยระหว่างวันที่ 16 – 19 สิงหาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยมีเกษตรกรและอาสาสมัครฝนหลวง จำนวน 41 ราย ขอรับบริการฝนหลวงให้กับพื้นที่การเกษตรบางส่วน ในจำนวน 46 อำเภอ 13 จังหวัด ได้แก่ บริเวณพื้นที่ อ.เมืองตาก จ.ตาก อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อ.หันคาและเนินขาม จ.ชัยนาท อ.ตาคลี ท่าตะโก พยุหะคีรี ลาดยาว แม่วงก์ โกรกพระ และไพศาลี จ.นครสวรรค์ อ.ด่านช้าง หนองหญ้าไซ อู่ทอง และเดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี อ.ทัพทัน บ้านไร่ ลานสัก และสว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี อ.พล และเปือยน้อย จ.ขอนแก่น อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ อ.จักราช ด่านขุนทด ปากช่อง ลำทะเมนชัย วังน้ำเขียว สีคิ้ว สูงเนิน เทพารักษ์ เมืองยาง และโนนไทย จ.นครราชสีมา อ.นางรอง ลำปลายมาศ หนองหงส์ และโนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ อ.กุดรัง นาดูน นาเชือก บรบือ พยัคฆภูมิพิสัย ยางสีสุราช วาปีปทุม และโกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม จึงได้สั่งการให้หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่รับผิดชอบบริเวณพื้นที่ข้างต้น ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งผลการปฏิบัติการในช่วงเวลาดังกล่าว โดยหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา ลพบุรี และกาญจนบุรี ได้ขึ้นบินปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรตามที่มีการร้องขอฝน ทำให้มีฝนตกเล็กน้อยและตกเล็กน้อยถึงปานกลางในหลายพื้นที่ของ จ.ลำพูน สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท กาญจนบุรี ลพบุรี สระบุรี ศรีสะเกษ นครราชสีมา บุรีรัมย์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม และสุรินทร์ รวมพื้นที่ดำเนินการได้ทั้งสิ้น 40 อำเภอ และยังอยู่ระหว่างการดำเนินการช่วยเหลืออีกจำนวน 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองตาก จ.ตาก อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ อ.ตาคลีและไพศาลี จ.นครสวรรค์ และ อ.อู่ทอง จ.สุพรรณบุรี
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มว่า อย่างไรก็ตามสำหรับพื้นที่การเกษตรที่ได้ดำเนินการช่วยเหลือไปแล้วนั้น ยังมีพื้นที่การเกษตรอีก 30 อำเภอ ที่ต้องการฝนอย่างต่อเนื่องเพื่อใช้ในการเพาะปลูกและการเจริญเติบโตของพืชผลต่อไป จึงขอให้เกษตรกรและประชาชน มั่นใจว่ากรมฝนหลวงและการบินเกษตร จะดำเนินการช่วยเหลือพื้นที่ร้องขออย่างทั่วถึง ทั้งนี้ สามารถแจ้งขอรับการบริการฝนหลวงได้ที่ตัวแทนอาสาสมัครฝนหลวง ในแต่ละพื้นที่ หรือแจ้งกับเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย/ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั้ง 5 ภูมิภาค และทางเพจเฟซบุ๊ก กรมฝนหลวงและการบินเกษตร