ดร.วิวัฒน์ วิฑูรย์เธียร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสจีเอฟ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGF เปิดเผยว่า ขณะนี้ บริษัทฯกำลังดำเนินการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและขาดทุนสะสม หลังจากเมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/ 2561 ได้อนุมัติการรวมหุ้นและปรับทุน โดยเมื่อครบกระบวนการแล้ว หากคำนวนจากงบไตรมาส 1 จะเหลือผลขาดทุนสะสมเพียง 54.52 ล้านบาท
โดยจากที่ไตรมาส 2/61 บริษัทฯมีกำไร 99.76 ล้านบาท จากช่วงเดียวของปีก่อนที่ขาดทุน 92.13 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯสามารถล้างขาดทุนสะสมที่คงเหลืออยู่ 54.52 ล้านบาทดังกล่าวได้ทั้งหมดในทันที โดยที่กำไรมาจากทั้งการชำระหนี้ และการเติบโตอย่างมากจากรายได้ของสินเชื่อรายย่อยด้วย
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ดร.วิวัฒน์ กล่าวมั่นใจว่า จะเติบโตอย่างดี เนื่องจากธุรกิจสินเชื่อรายย่อยได้รับการตอบรับที่ดีและขณะนี้ฐานลูกค้าเริ่มส่งสัญญาณขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยยอดปล่อยสินเชื่อรายย่อยจาก ไตรมาส 2 อยู่ที่ 301.83 ล้านบาท สูงขึ้นก่วาไตรมาส 1 ที่ปล่อยได้ 122.32 ล้านบาทมาก โดยที่เรายังคุมหนี้เสียให้อยู่ในระดับต่ำ 3-4% ได้อยู่เช่นเดิม ทำให้ภายในสิ้นปี 2561 ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่มีโอกาสทะลุเป้าระดับ 1,000 ล้านบาทได้ไม่น่าจะยากนัก โดยจะเป็นการเติบโตด้วยคุณภาพลูกหนี้ที่ดีเช่นเดิม
"มั่นใจว่าผลประกอบการโดยเฉพาะในฝั่งของสินเชื่อรายย่อย ครึ่งปีหลังของปี 61 จะเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกมาก โดยขณะที่ปัญหาขาดทุนสะสมหรือส่วนต่ำมูลค่าหุ้น เราก็ดำเนินการแก้ไขไปหมดแล้ว บริษัทฯจะยังคงเน้นดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างรัดกุม เพื่อให้การสร้างฐานการดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างแข็งแกร่ง" ดร.วิวัฒน์กล่าว