ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นไทยออยล์อนุมัติการลงทุนโครงการ CFP

อังคาร ๒๘ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๒:๒๔
นายอธิคม เติบศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นบริษัทฯ ซึ่งประชุมเมื่อวานนี้ (27 สิงหาคม 2561) ได้มีมติอนุมัติการ ลงทุนโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project หรือ CFP) ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของโรงกลั่นไทยออยล์ให้คงอยู่ในกลุ่มผู้นำของอุตสาหกรรม ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการผลิตเพื่อเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเพิ่มกำลังการกลั่นน้ำมันดิบจากเดิมที่ 275,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 400,000 บาร์เรลต่อวัน โดยโครงการใช้ระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี และมีวงเงินลงทุนทั้งสิ้นประมาณ 4,825 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยบริษัทฯ มีแนวทางเพิ่มเติมในการจัดหาผู้สนใจลงทุนในหน่วยผลิตไฟฟ้า (Energy Recovery Unit : ERU) ซึ่งจะทำให้วงเงินลงทุนลดลง เป็นไม่เกิน 4,174 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายอธิคม กล่าวเสริมว่า " สภาวะอุตสาหกรรมโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมในช่วงที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก จากการเกิดขึ้นของโรงกลั่นใหม่หลายแห่ง ซึ่งมีข้อได้เปรียบจากการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีกำลังการผลิตสูง ทำให้โรงกลั่นที่มีอายุการใช้งานมานาน มีความสามารถในการแข่งขันลดลง นอกจากนี้ความต้องการผลิตภัณฑ์น้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิดก็มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปจากสาเหตุปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการน้ำมันเตากำมะถันสูงซึ่งคาดว่าจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการประกาศห้ามใช้ในเรือเดินสมุทรขององค์กรการเดินเรือระหว่างประเทศ(International Maritime Organization หรือ IMO) และแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน ตามการเติบโตของสภาพเศรษฐกิจและการเดินทางทางอากาศ เป็นต้น "

" เพื่อรองรับแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ไทยออยล์จึงริเริ่มโครงการ CFP ขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิต โดยจะทำการก่อสร้างหน่วยกลั่นน้ำมันดิบใหม่ที่มีกำลังการกลั่นสูงมาทดแทนหน่วยกลั่นน้ำมันเดิมซึ่งมีอายุการใช้งานมานาน ทำให้เกิดการประหยัดจากขนาด (Economies of Scale) และใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยทำให้สามารถกลั่นน้ำมันดิบได้หลากหลายชนิดขึ้น การติดตั้งหน่วยเพิ่มคุณค่าผลิตภัณฑ์เพื่อเปลี่ยนน้ำมันเตาและยางมะตอยเป็นน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยาน เป็นต้น การลงทุนโครงการ CFP ยังจะสร้างประโยชน์ให้กับประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ เสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน สร้างโอกาสการเป็น Energy Hub ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC) สนับสนุนการขับเคลื่อนและการขยายตัวเศรษฐกิจของประเทศจากการจ้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม นอกจากนี้โครงการ CFP ยังผลิตสารตั้งต้นของอุตสาหกรรม ปิโตรเคมีซึ่งสามารถสนับสนุนโครงการปิโตรเคมีระยะ 4 ของภาครัฐ อีกด้วย "

ไทยออยล์เป็นผู้ประกอบธุรกิจการกลั่นและจำหน่ายน้ำมันปิโตรเลียมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ 2504 โดยมีธุรกิจหลักคือ การกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ปัจจุบันมีกำลังการผลิต 275,000 บาร์เรลต่อวัน

นอกจากนี้ ไทยออยล์ยังมีระบบการบริหารจัดการที่มุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Operational Excellence) โดยบริหารงานเป็นกลุ่มที่มีการเชื่อมโยงทางธุรกิจ ทั้งธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ธุรกิจปิโตรเคมีและธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นพื้นฐาน โดยร่วมวางแผนการผลิตก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและสามารถผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีต้นทุนต่ำ ขณะเดียวกันมีคุณภาพสูงในระดับโรงกลั่นชั้นนำ (Top Quartile) ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ทำให้ได้เปรียบเชิงต้นทุนการผลิต เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องหลากหลาย เช่น ธุรกิจไฟฟ้า ธุรกิจสารทำละลาย ธุรกิจบริหารการขนส่งทางเรือและทางท่อ ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตสารตั้งต้นสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สารทำความสะอาด ธุรกิจบริการจัดเก็บน้ำมันดิบ น้ำมันปิโตรเลียม และผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี และธุรกิจให้บริการด้านการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรสำหรับกลุ่มไทยออยล์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO