นายบุญฤทธิ์ จิระพจชพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บอสตัน เอเวนิว (1987) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันการพัฒนาโครงการแนวราบประเภทบ้านหรู รูปแบบลักชัวรี่ ยังเป็นที่นิยมของบรรดาผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากการพัฒนาโครงการรูปแบบดังกล่าวนั้น ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจมากนัก ขณะเดียวกันผู้ซื้อก็คำนึงถึงความคุ้มค่าเป็นหลัก โดยให้ความสำคัญกับมูลค่าสินทรัพย์ที่สามารถเติบโตและสืบทอดต่อให้ลูกหลานได้ ดังนั้นผู้ประกอบการจึงมุ่งพัฒนาและความแตกต่างให้กับโครงการมากขึ้น จึงทำให้บริษัทเริ่มต้นพัฒนาโครงการ "THE PARK AVENUE PRIVATE" (เดอะ พาร์ค เอเวนิว ไพรเวท) โครงการบ้านหรู ติดคอมมูนิตี้มอลล์และสนามกอล์ฟ ริมถนนกรุงเทพกรีฑา บนพื้นที่โครงการกว่า 13 ไร่ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายคือ กลุ่มบริหารระดับสูง เจ้าของธุรกิจและผู้สืบทอดกิจการ รวมถึงกลุ่มผู้ปกครองโรงเรียนนานาชาติ ในทำเลใกล้เคียง
โครงการ THE PARK AVENUE PRIVATE ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด The Modern Luxury Tropical Style ด้วยรูปแบบ Modernized Living ที่ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีและการคัดสรรวัสดุที่เหมาะสมเพื่อการใช้ชีวิตที่ง่ายขึ้น ตอบรับการใช้ชีวิตแบบ Easy Life ของครอบครัวสมัยใหม่ นอกจากนี้ยังเน้น Luxurious Signature ความหรูหราที่เกิดจากความใส่ใจในรายละเอียด รวมถึงคุณภาพการคัดสรรวัสดุที่มาใช้เป็นองค์ประกอบบ้าน ความสวยงามและความหรูหรา ทรงคุณค่า เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ของผู้ครอบครองให้เกิดความภาคภูมิใจเมื่อได้สัมผัส ไปจนถึง Tropical Delight ที่นำวิถีธรรมชาติเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตโดยไม่ต้องค้นหาด้วยการจัดวางพื้นที่สีเขียว หรือแลนด์สเคป ให้ธรรมชาติโอบล้อมตัวบ้าน คำนึงถึงทิศทางของสายลม แสงแดด ท่ามกลางธรรมชาติ
"THE PARK AVENUE PRIVATE" เป็นโครงการเดียวในย่านนี้ที่เชื่อมการคมนาคม เข้าออกได้ 2 เส้นทางทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และถนนกรุงเทพกรีฑา ด้วยมูลค่าการลงทุน 1,200 ล้านบาท โดยบ้านมีราคาเริ่มต้น 27 ล้านบาท ได้รับการออกแบบโดย 760i Architect & Consultant Co., Ltd. ที่เน้นความสงบส่วนตัวด้วยบ้านเพียง 36 หลัง ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ซึ่งจะไม่จำกัดการใช้ชีวิตเฉพาะที่ชั้นล่างของบ้าน เพราะโครงการมีระบบ Home Lift (จาก Mitsubishi) ไว้สำหรับบ้าน Type M และ Type L โดยมีพื้นที่โครงการรวม 10 ไร่ 3 งาน 74 ตารางวา ประกอบด้วยบ้าน 3 ขนาด คือ
1. แบบบ้าน SNOWBERRY (Type S มี 21 หลัง) ที่ดินเริ่มต้น 64.7-74.4 ตารางวา มี 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 354 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน/ 6 ห้องน้ำ/ 3 ที่จอดรถ
2. แบบบ้าน MULBERRY (Type M มี 11 หลัง) ที่ดินเริ่มต้น 78.9-97.1 ตารางวา มี 3 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 439 ตารางเมตร มี 5 ห้องนอน/ 7 ห้องน้ำ / 1 ห้องแม่บ้าน / 3 ที่จอดรถ / มีลิฟท์
3. แบบบ้าน LAUREL (Type L มี 4 หลัง) ที่ดินเริ่มต้น 102.6-141.2 ตารางวา มี 4 ชั้น เนื้อที่ใช้สอย 680 ตารางเมตร มี 4 ห้องนอน / 6 ห้องน้ำ / 4 ที่จอดรถ /1 ห้องแม่บ้าน / มีสระว่ายน้ำที่ชั้น 4 / มีลิฟท์
สำหรับความคืบหน้าโครงการอยู่ระหว่างการตกแต่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ได้ทุกหลังพร้อมกันในปลายปี 2561 นี้ ปัจจุบันมีบ้านที่ขายได้แล้วรวม 15 หลัง จากทั้งหมด 36 หลัง โดยให้ บริษัท เน็กซัส พรอพเพอร์ตี้ เอเจนซี่ จำกัด เป็นผู้บริหารการขายโครงการ และในบริเวณดังกล่าว ยังมีที่ดินเหลืออีกประมาณ 7 ไร่ ที่เตรียมจะพัฒนาในเฟสถัดไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษารูปแบบโครงการ โดยตั้งเป้ารายได้ธุรกิจเครือโฟรวิงส์กรุ๊ปปีนี้ที่ 2,500 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมีที่ดินแปลงใหญ่ที่มีศักยภาพอีกหลายแปลง อาทิ ที่ดินย่านกรุงเทพกรีฑาจำนวน 50 ไร่ อยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า (ถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่) ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างตัดผ่าน รวมถึงมีที่ดินย่านพระราม 9 อีกกว่า 50 ไร่ ซึ่งที่ดินทั้ง 2 แปลง ทางบริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านเพื่อมาพัฒนาโครงการร่วมกัน
ปัจจุบันพื้นที่กรุงเทพตะวันออก ถือเป็น NEW CBD ของบ้านเดี่ยว โดยมีถนนสำคัญ 2 สายเชื่อมสู่ใจกลางเมือง คือศรีนครินทร์-ร่มเกล้า และการขยายถนนกรุงเทพกรีฑา โดยโครงการ THE PARK AVENUE PRIVATE รายล้อมด้วยสถาบันการศึกชั้นนำ ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติไบรท์ตัน และโรงเรียนนานาชาติ เวลลิงตัน อยู่ใกล้สนามกอล์ฟ 2 สนาม คือ สนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑา สนามกอล์ฟยูนิโก้ และห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 20 นาที ใกล้กับทางด่วนศรีรัชและแอร์พอร์ตลิ้งค์ (หัวหมาก) โดยมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ศรีกรีฑา) ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ราคาที่ดินในย่านนี้ได้ปรับขึ้นมากกว่า 50-100% เนื่องจากมีการพัฒนาพื้นที่ในโซนนี้อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันราคาที่ดินอยู่ที่ประมาณ 100,000 - 120,000 บาท ต่อตารางวา
นางสาวศรินยา จิระพจชพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท บอสตัน เอเวนิว (1987) จำกัด ผู้บริหาร THE PARK คอมมิวนิตี้มอลล์ และ W FITNESS (ดับเบิ้ลยู ฟิตเนส) กล่าวว่า ในส่วนของคอมมิวนิตี้มอลล์ บริษัทใช้เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตสะดวกสบาย รองรับการการพักผ่อนอย่างเต็มที่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "มอลล์ใกล้บ้าน บ้านใกล้มอลล์" ประกอบด้วยพรีเมี่ยมแบรนด์ ต่างๆ อาทิ ร้านกาแฟ Starbuck , The Pizza Company , Ramen KouraKuen , TOPS DAILY รวมไปถึง Lifestyle Shop ต่างๆ
"ภายหลังจากที่เปิดตัว THE PARK คอมมิวนิตี้มอลล์ เมื่อเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา เราได้การตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้าและผู้ที่อาศัยในรัศมี 3-5 กิโลเมตร เนื่องจากทำเลที่ตั้งโครงการฯ อยู่ใกล้สถานศึกษา สนามกอล์ฟ ออฟฟิศ และหมู่บ้านเป็นจำนวนมาก ทำให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากกว่า 50,000 คนต่อเดือน โดยได้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ ของโครงการทั้งสื่อออนไลน์และสื่อออฟไลน์ เพื่อสร้างการรับรู้ รวมถึงจัดกิจกรรมและโปรโมชั่นพิเศษ เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างสม่ำเสมอ"
นอกจากนี้ ทางโครงการฯ ยังมี W FITNESS (ดับเบิ้ลยู ฟิตเนส) ที่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยเป็นสปอร์ต คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่เนื้อที่กว่า 2,300 ตารางเมตร ตั้งอยู่ภายใน THE PARK คอมมิวนิตี้มอลล์ เพื่อรองรับสมาชิกในโครงการฯ และผู้อาศัยในย่านใกล้เคียง (ลูกบ้านได้สิทธิ์เป็น Member 3 ปีแรกฟรี) โดยมีอุปกรณ์ออกกำลังกายที่คัดสรรมาตรฐานระดับ Life Fitness สระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือยาวกว่า 30 เมตร แบบ Infinity Edge Pool พร้อมสัมผัสทัศนียภาพสีเขียวจากสนามกอล์ฟกรุงเทพกรีฑากว่า 400 ไร่ ในมุมมองแบบ Panoramic View นอกจากนี้ ยังมีวาไรตี้ สปอร์ต อื่นๆ เช่น ผาปีนเขาจำลอง ยิมมวยไทย พีลาทิส/โยคะ จากุซซี่ และออนเซ็น ปัจจุบันมีผู้ที่สมัครเป็นสมาชิกของ W FITNESS แล้วกว่า 500 คน โดยจะเปิดรับสมาชิกเพียงแค่ 600 คนเท่านั้น และสำหรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกจะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย รวมถึงส่วนลดจากร้านค้าภายใน THE PARK คอมมิวนิตี้มอลล์ ตั้งแต่ 10% - 50 % อีกด้วย