สำนักงานโครงการการค้าสีเขียวไต้หวัน จัดแสดงซุ้มผลิตภัณฑ์สีเขียว นำเสนอเทคโนโลยีเพื่อการสร้างเมืองอัจฉริยะตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ในงาน Taiwan Expo 2018

พฤหัส ๓๐ สิงหาคม ๒๐๑๘ ๑๕:๑๘
สำนักงานโครงการการค้าสีเขียว (Green Trade Project Office : GTPO) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน กำหนดจัดแสดง ซุ้มผลิตภัณฑ์สีเขียวไต้หวัน (Taiwan Green Products Pavilion) ในงาน Taiwan Expo 2018 ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม – 1 กันยายน 2561 ณ งานศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ ภายในซุ้มมีการจัดแสดงสินค้าและเทคโนโลยีพลังงานสีเขียวของไต้หวันซึ่งครอบคลุมเทคโนโลยีหลัก 3 ประเภท ได้แก่ 1) โซลูชั่นเมืองอัจฉริยะและอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อตอบโจทย์นโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" 2) วัสดุก่อสร้างสีเขียวเพื่อการสร้างเมืองสีเขียว 3) เทคโนโลยีการประหยัดพลังงานและการป้องกันสิ่งแวดล้อม

เนื่องด้วยประเทศไทยเป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคอาเซียน และคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ยั่งยืนในช่วงปี พ.ศ. 2561-2562 จากการขับเคลื่อนนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" ของภาครัฐบาล รวมถึงการพัฒนาสิบอุตสาหกรรม S-Curve นอกจากนี้ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อนที่มีแสงแดดตลอดปี จึงมีการส่งเสริมการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งเป็นพลังงานหมุนเวียนต้นทุนต่ำและเป็นพลังงานสะอาด ดังนั้น อุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวจึงเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0"

อุตสาหกรรมพลังงานสีเขียวของไต้หวันเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่รัฐบาลไต้หวันให้การสนับสนุน ในแผน "5+2 Industrial Innovation Plan" โดยแผนนี้เป็นการพัฒนาและการส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียวในไต้หวันที่มีรากฐานแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์ของไต้หวันยังมีคุณภาพสูงและมีราคาที่สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ เมื่อประเทศไทยบูรณาการบริการประสิทธิภาพสูงจากไต้หวัน ย่อมสามารถสร้างเมืองอัจฉริยะที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นได้

มร.เฟลิกซ์ เอช. แอล. ชิว ผู้อำนวยการบริหาร สำนักงานโครงการการค้าสีเขียว (GTPO) กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน อธิบายว่า "บริษัทที่ดำเนินธุรกิจประเภทต่าง ๆ ในไต้หวัน นับตั้งแต่อุตสาหกรรมการผลิตไปจนถึงอุตสาหกรรมไฮเทค ต่างมีการลงทุนด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน และการวิจัยเพื่อสิ่งแวดล้อมด้านอื่น ๆ อย่างมาก สำหรับด้านวัสดุสีเขียวและการรีไซเคิลนั้น ไต้หวันมีการรีไซเคิลสิ่งทอจาก โพลีเอสเตอร์มากเป็นอันดับ 1 ของโลก และถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการรีไซเคิลวัสดุสูงสุดของโลกที่ 55.2%* โดยในปี 2017 ไต้หวันยังเป็นผู้ผลิตรายใหญ่อันดับ 2 ของโลกในด้านเซลล์พลังงานแสงอาทิตย์** และหลอดแอลอีดี*** ในขณะเดียวกัน ไต้หวันยังมีการผลิตจักรยานเป็นสินค้าส่งออกที่มีปริมาณสูงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ**** โดยไต้หวันมีบริษัทผู้ผลิตวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมมากกว่า 8,000 ราย ด้วยมูลค่าการส่งออกแต่ละปีราว 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยรัฐบาลไต้หวันยังคงมุ่งมั่นแสวงหาโซลูชั่นที่ยั่งยืน และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้แก่บริษัทผู้ผลิตนวัตกรรมระดับโลกในไต้หวัน วิสัยทัศน์ของเราคือการส่งเสริมอุตสาหกรรมสีเขียวให้เป็นตัวขับเคลื่อนหลักเพื่อสร้างการเติบโตด้านการส่งออก และเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่ยอมรับในฐานะโซลูชั่นบุกเบิกชั้นนำของโลก เพื่อนำไปสู่การสร้างโลกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชีวิตของผู้คนที่มีความสุขมากยิ่งขึ้นในทุก ๆ ประเทศ"

ซุ้มผลิตภัณฑ์สีเขียวของไต้หวันจะจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากบริษัทชั้นนำของไต้หวัน 12 บริษัทซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของประเทศไทย และเพื่อเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจสีเขียวตามนโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" ซึ่งครอบคลุมความต้องการหลักทั้ง 3 ข้อ ได้แก่

โซลูชั่นเมืองอัจฉริยะและอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) เพื่อตอบโจทย์นโยบาย "ไทยแลนด์ 4.0" โดยการจัดแสดงสินค้าหลอดไฟแอลอีดีและโคมไฟสำหรับใช้ในถนน โคมไฟสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม และการรวบรวมสถานีชาร์จไฟกับการบูรณาการ, เซ็นเซอร์ตรวจสอบสภาพอากาศของ TAIWAN A TEAM, หลังคาและแผงโซล่าเซลล์แสงอาทิตย์ประเภทพื้นผิวคริสตัลของบริษัท TSEC, โมดูลพลังงานแสงอาทิตย์แบบ CIGS ของบริษัท ETERBRIGHT, และระบบควบคุมแสงอัจฉริยะของบริษัท LINKCOM

วัสดุก่อสร้างสีเขียวสำหรับเมืองสีเขียว นำเสนอผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบสูตรน้ำซึ่งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของบริษัท ABERDEEN, ไม้อัดคุณภาพสูงจากบริษัท Evergreen Timber, และสีสะท้อนพลังงานแสงอาทิตย์ N.POLE ของ Global international Energy Saving

เทคโนโลยีการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม โดยการนำเสนอกระจกอัจฉริยะที่เปลี่ยนจากกระจกใสเป็นกระจกฝ้าและทึบแสงได้ซึ่งควบคุมโดยระบบไฟฟ้าของบริษัท SD OPTRONICS, กระจกประเภทฉนวนกันความร้อนแบบประหยัดพลังงานของบริษัท GENMOOR TECHNOLOGY, การบูรณาการบริการวิศวกรรมแบบประหยัดพลังงานของบริษัท CHENG LONG ENERGY, และการวางแผนเกี่ยวกับการก่อสร้างโรงเผาขยะและโรงบำบัดน้ำเสียขนาดใหญ่ การบริการด้านวิศวกรรมก่อสร้างแบบเหมารวมทั้งหมดและอื่น ๆ ของบริษัท ECOVE

โครงการส่งเสริมผลิตภัณฑ์สีเขียวประจำปีนี้ยังคงดำเนินการไปอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการเจาะตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน อินเดีย และอื่น ๆ โดยประเทศไทยนับเป็นการจัด "Taiwan Expo 2018" ครั้งที่ 4 ซึ่งงานแสดงสินค้าดังกล่าวจะจัดขึ้นที่มาเลเซียช่วงเดือนตุลาคมเป็นจุดหมายสุดท้ายของปีนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถติดต่อเข้าร่วม "Green Customer Exploration" กับทางสำนักงานโครงการการค้าสีเขียวเพื่อแสวงหาโอกาสทางธุรกิจเพื่อโลกที่ดีขึ้นร่วมกัน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.greentrade.org.tw หรือติดต่อผ่านทางหมายเลขโทรศัพท์ +662-651-4470, +8862-2725-5200(ไต้หวัน) และอีเมล [email protected]

หมายเหตุ

* แหล่งข้อมูล: eunomia

** แหล่งข้อมูล: IEK 2018

*** แหล่งข้อมูล: PIDA 2018

**** แหล่งข้อมูล: IDB 2017

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๔๗ เอ. เจ. พลาสท์ คว้า 2 รางวัลใหญ่ จาก SET Awards 2024 และได้รับการประเมิน CGR ดีเลิศ ระดับ 5 ดาว
๑๖:๑๓ เปิดมาตรการ พักหนี้ ลดดอกเบี้ย ช่วยเหลือ SMEs ถูกน้ำท่วมในงาน มันนี่ เอ็กซ์โป 2024 เชียงใหม่
๑๖:๓๙ หน้าหนาวมาเยือน! กรมอนามัยเตือนดูแลสุขภาพให้พร้อม เด็กเล็ก-ผู้สูงอายุเสี่ยงเจ็บป่วยง่าย
๑๖:๕๗ เปิดรันเวย์อวดผลงานไอเดียสร้างสรรค์ของ 5 ผู้ชนะรางวัลทุนการศึกษา จากโครงการ Jaspal Group Scholarship Program
๑๖:๐๘ กิฟฟารีน แนะนำไอเทมเด็ด กิฟฟารีน เอช เอ็ม บี พลัส วิตามินดี 3 สำหรับช่วยดูแลมวลกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
๑๕:๐๑ ไขข้อสงสัย สินเชื่อรถแลกเงินคืออะไร
๑๕:๓๘ ซื้อมอเตอร์ไซค์ ออกรถใหม่ มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง
๑๕:๐๕ ยางขอบ 17 ยี่ห้อไหนดีที่ขับขี่สนุก และยังคงนุ่มสบาย
๑๔:๕๖ heygoody คว้าแชมป์จากเวที Thailand Influencer Awards 2024 ตอกย้ำความเข้าใจลูกค้า Introvert
๑๔:๐๓ เมืองไทยประกันชีวิต คว้า 4 รางวัลใหญ่ระดับสากล ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และเป็นองค์กรสถานประกอบการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการ