นายพิสิฐ รังสฤษฎ์วุฒิกุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หรือ สคช. เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการลดช่องว่างให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลด้านต่างๆ ในการขอใบรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับกลุ่มอาชีพที่ต้องการพัฒนาทักษะและยกระดับสมรรถนะของบุคคลที่สดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบในภาคธุรกิจอย่างแท้จริง ดังนั้น แผนในการดำเนินการของ สคช.ในปี 2562 นั้น จะเร่งขยายการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของ สคช.กระจายไปยังพื้นที่ในต่างจังหวัดทั่วประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น โดยตั้งเป้าหมายให้บุคคลในอาชีพต่างๆ เข้ามาทดสอบสมรรถนะเพื่อได้ใบประกาศนียบัตรคุณวุฒวิชาชีพเพิ่มขึ้น 100% เมื่อเทียบกับปี 2561 หรือจากจำนวนบุคคล 30,000 คน เพิ่มเป็น 60,000 คน และให้เป็นไปตามเป้าหมายในปี 2563 ที่ตั้งเป้ามีผู้เข้ามาของรับใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพจำนวน 310,000 คน ใน 72 วิชาชีพ ซึ่งปัจจุบันอาชีพ 3 อันดับแรกที่เข้ามาขอใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพมากสุด คือ โลจิสติกส์ บริการยานยนต์ และผู้ประกอบอาหารไทย หรือคิดเป็น 60% ของจำนวนผู้ขอใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพทั้งหมด
"ในการดำเนินการให้เป็นไปตามเป้าหมายนั้น นอกเหนือจากการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับแผนการดำเนินงานในทุกภาคส่วนของ สคช. แล้ว สคช. ยังมีเป้าหมายหลัก คือ การสร้างความร่วมมือในการจัดทำมาตรฐานคุณวุฒิวิชาชีพของประเทศร่วมกันกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเพิ่มขีดสามารถการแข่งขัน รวมถึงการสร้างการยอมรับในสมรรถนะ และยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพ ดังนั้น ทาง สคช. จึงมีแผนการขยายองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ หรือ CB (Certification Bodies ) ซึ่งมีหน้าที่ในการจัดสอบ เพื่อทดสองสมรรถนะของบุคคลในอาชีพต่างๆ เพิ่มขึ้นอีก 50 แห่ง จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 160 แห่งทั่วประเทศ" นายพิสิฐ กล่าว
ล่าสุดเพื่อเป็นการยกระดับองค์กรรับรอง ทาง สคช. ได้จัดโครงการอบรมการใช้งานระบบฐานข้อมูลในการให้บริการระบบคุณวุฒิวิชาชีพกับองค์กรรับรอง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ที่ปรึกษาในการจัดทำมาตรฐานอาชีพสามารถนำเข้าเครื่องมือประเมินสมรรถนะในระบบบริหารจัดการออกข้อสอบได้อย่างถูกต้องมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้องค์กรรรับรองสมรรถนะของบุคลากรตามมาตรฐานอาชีพ สามารถใช้งานระบบฐานข้อมูลในการบริการระบบคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งเป็นการให้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และมีความทันสมัย สามารถติดตามการดำเนินการอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมกว่า 100 คน
นอกจากนี้ จากการเติบโตของการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วโลกที่ปัจจุบันมีผู้เข้าถึงข้อมูลผ่านระบบออนไลน์มากกว่า 4,000 ล้านคนทั่วโลก โดยคนไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต 57 ล้านคน มีผู้ใช้งาน Social Media มากถึง 51 ล้านคน มีจำนวนผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือ สูงถึง 93.61 ล้านเลขหมาย มากกว่าจำนวนประชากรทั้งประเทศ และในจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด มีผู้ใช้ Social Media เป็นประจำผ่าน Smart Device 46 ล้านคน และพบว่า คนไทยใช้เวลาเข้าอินเทอร์เน็ตต่อวันมากที่สุดในโลก ดังนั้น สคช. จึงได้มีการพัฒนา Application TPQI-NET เพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงข้อมูลในด้านต่างๆ เกี่ยวกับคุณวุฒิวิชาชีพอย่างรวดเร็ว รวมถึงให้ผู้ที่เข้ารับการประเมินสามารถตรวจสอบสมรรถนะของตนเองได้ทุกที่ทุกเวลา
สำหรับที่ผ่านมา สคช.ได้มีการสร้างช่องทางต่างๆ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ ซึ่งที่ผ่านมาพบว่า มีกลุ่มผู้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ www.tpqi.go.th มากถึง 20,461 ราย ผ่านช่องทาง Page view 458,570 ราย หรือเติบโตกว่า 161% และมีประเทศต่างๆ ทั่วโลกเข้าถึงข้อมูลมากกว่า 44 ประเทศทั่วโลก