JCKH (Hotpot เดิม) ลุยรีแบรนด์-เพิ่มสินค้าใหม่ รุกขยายสาขาซุปเปอร์พอท-เจิ้งโต่ว

อังคาร ๐๔ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๒:๓๖
JCKH (Hotpot เดิม) ด้วยทีมบริหารใหม่ เดินหน้าขยายสาขาซุปเปอร์พอท จ่อเปิดเพิ่มอีก 2-3แห่งเร็วๆนี้ เลือกทำเลที่มีกำลังซื้อสูงและเน้นเมนูชาบู เพื่อสุขภาพ เจาะกลุ่มลูกค้าพรีเมี่ยม ส่วนเจิ้งโต่ว ร้านอาหารจีน ติ่มซำสไตล์กวางตุ้ง แนวโน้มดี เตรียมเปิดสาขาใหม่ที่อินท์-อินเตอร์เซคพระราม 3 และไอคอนสยาม โดยจัดเชฟมือดีส่งตรงเข้าร้าน เชื่อได้รับการตอบรับคึกคัก

นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมแผนรุกขยายสาขาร้านอาหาร 2แบรนด์ หลังได้รับการตอบรับที่ดีส่งสัญญาณบวกต่อเนื่อง โดยเฉพาะร้านอาหารซุปเปอร์พอท ประเภทชาบูพรีเมี่ยมจะเน้นอาหารสุขภาพ คัดวัตถุดิบเกรดดี มีน้ำซุปให้เลือก 9 ชนิด ที่ปราศจากผงชูรส และซอส 9 ชนิด รวมถึงซูชิ ซาชิมิ และอีกหลากหลายเมนู เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ซึ่งหลังจากที่เปิดร้านที่ซีคอนสแควร์ไปแล้วได้รับการตอบรับอย่างคึกคัก โดยเตรียมดันโปรโมชั่นมา 4 จ่าย 3 ทุกวัน เฉพาะนักเรียน-นักศึกษา ถึง 31 ต.ค. 2561 และโปรโมชั่นลด 100 บาท ในวันจันทร์-พฤหัสบดี สำหรับลูกค้า 4 ท่านขึ้นไปที่ทานบุฟเฟ่ต์ ตั้งแต่ 10 ก.ย. - 10 ต.ค. 2561

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 2-3 แห่งเร็วๆนี้ โดยส่วนหนึ่งจะทำการปรับแบรนด์ร้านฮอท พอท เป็นซุปเปอร์พอท ซึ่งจะเน้นเลือกสาขาที่มีกำลังซื้อสูง เนื่องจากเทรนด์การบริโภคในยุคปัจจุบัน ผู้บริโภคพร้อมที่จ่ายในราคาที่สูง เพื่อเลือกสินค้ามีคุณภาพและดีต่อสุขภาพ

สำหรับร้านอาหาร เจิ้งโต่ว ซึ่งเป็นร้านติ่มซำสไตล์ฮ่องกงและอาหารจีนกวางตุ้ง ซึ่งได้เปิดบริการสาขาแรกที่โฮมโปร พระราม 3 โดยได้ลิขสิทธิ์สูตรเดียวกับ เจิ้งโต่ว แกรนด์ ภัตตาคารระดับหรูจากโรงแรมอนันตรา สาทร กรุงเทพฯ และได้รับการตอบรับที่ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมแผนจะขยายสาขาที่ อินท์-อินเตอร์เซค พระราม 3 และสาขาไอคอนสยาม โดยจะส่งเชฟฝีมือดีและอาหารรสเด็ดสูตรดั้งเดิมพร้อมเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ทันที ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รบความสนใจอย่างคึกคัก

อย่างไรก็ตาม แผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2561 ยังคงมุ่งเน้นนโยบายการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ควบคู่ไปกับนโยบายการปรับเพิ่มรายได้ ซึ่งแบ่งเป็นสองส่วนส่วนแรกคือรายได้ที่จะเกิดจากร้านอาหารที่เป็นแบรนด์เดิมจะใช้กลยุทธ์การปรับระดับของราคาขายทำให้มีความแตกต่าง และหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของแต่ละกลุ่มลูกค้า รวมถึงจับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีกำลังซื้อที่ต้องการสินค้า

สำหรับปัจจุบันธุรกิจอาหารของ JCKH ประกอบด้วย 6 แบรนด์ รวมกัน 95 สาขา ได้แก่ Hot Pot 85 สาขา , Daidomon 5 สาขา , Signature 2 สาขา , Toomato Italian Kitchen 1 สาขา , Soupper Pot 1 สาขาและ Zheng Dou 1 สาขา

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO