นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เปิดเผยว่า ไปรษณีย์ไทย ได้ดำเนินโครงการเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายและระบบโลจิสติกส์ พร้อมคลังสินค้าเพื่อยกระดับสินค้าภาครัฐสู่ตลาดค้าปลีกและค้าส่งภายในประเทศ จากความร่วมมือกับองค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยความร่วมมือดังกล่าว เป็นการบูรณาการศักยภาพระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านขนส่งการกระจายสินค้า สร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรและวิสาหกิจชุมชน ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกรด้วยการนำสินค้าเกษตรมาสร้างมูลค่าและจำหน่ายในช่องทางที่มีประสิทธิภาพ เช่น ตลาดออนไลน์ โดยประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดเป็นเครือข่ายทางธุรกิจ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวจะประเดิมสินค้าตัวแรกด้วย ข้าวสารบรรจุถุง ตรา อคส. จำหน่ายในช่องทางตลาดของไปรษณีย์ไทยทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยในระยะแรกจะนำร่องในช่องทางร้านออนไลน์ thailandpostmart.com ของดีทั่วไทยส่งให้ถึงมือก่อน จากนั้นจะขยายไปยังที่ทำการไปรษณีย์ต่างๆ ต่อไป
นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังเตรียมเช่าพื้นที่คลังสินค้าราษฎร์บูรณะขององค์การคลังสินค้า เพื่อเปิดเป็นศูนย์กระจายสินค้าด้านอีคอมเมิร์ซและโลจิสติกส์ ประกอบด้วยจุดบริการจัดส่งสินค้าครบวงจรในพื้นที่ 1,000 ตร.ม. ของคลังหลังที่ 3 ในช่วงเดือนตุลาคม 2561 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในย่านธนบุรีและคลังหลังที่ 1 พื้นที่ 2,400 ตร.ม. ให้เป็นศูนย์กระจายสินค้าออนไลน์เต็มรูปแบบในช่วงต้นปีหน้า (2562) ซึ่งจะรวมถึงสินค้า อคส. ที่จะกระจายไปยังร้านค้าปลีกทั้งในโครงการร้านธงฟ้าประชารัฐ และร้านอื่น ๆ ด้วย
นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) กล่าวว่า ในปัจจุบันองค์การคลังสินค้าได้ปรับบทบาทและภารกิจใหม่ โดยเน้นการสนับสนุนในเชิงพาณิชย์มากขึ้น ได้แก่ การทำธุรกิจการค้าด้านสินค้าเกษตร และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้อง การบริหารคลังสินค้าที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการปรับบทบาทจากการเป็นผู้ให้เช่าพื้นที่ สู่การเป็นผู้ให้บริการคลังสินค้าแบบครบวงจร และการดำเนินงานด้านธุรกิจสินค้าเกษตรตามนโยบายเพื่อรักษาสมดุลทั้งปริมาณและราคาอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม
ด้วยบทบาทและภารกิจใหม่นี้ อคส. จึงต้องมีการปรับตัวด้วยการขยายพื้นที่และขยายตลาดในการทำธุรกิจมากขึ้น โดยเน้นการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐเป็นหลัก เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
"สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับประชาชนและผู้ประกอบการ SME โดยส่วนรวม ซึ่งจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศในลำดับต่อไป รวมทั้งการเพิ่มโอกาสให้ประชาชนสามารถบริโภคข้าวสารคุณภาพดีของ อคส. ในราคายุติธรรมได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น"
ผู้ที่สนใจ "ข้าวหอมมะลิ 100%" ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิตระบบ GMP, HACCP และ ISO 9001 : 2000 ภายใต้เทคโ นโลยีและเครื่องจักรอันทันสมัย ขนาดบรรจุถุง 1 กก. 3 ถุงต่อชุด ราคา 180 บาท สามารถสั่งซื้อได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น Thailandpostmart หรือแอดไลน์@thailandpostmart สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center 1545