ฉนวนใยแก้วอิโซแวร์มีลักษณะเป็นแผ่นฉนวนที่ผลิตจากใยแก้วคุณภาพสูงโดยผ่านกระบวนการเทอร์โมเซตติง เรซิ่น เป็นวัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของผู้ใช้อาคาร มีคุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิร้อนจัดหรือเย็นจัด ทำให้สามารถใช้ในระบบผนัง GypWall System หรือกับระบบฝ้าเพดานฉาบเรียบได้เป็นอย่างดี
ฉนวนใยแก้วอิโซแวร์สามารถใช้เป็นโซลูชั่นส์เพื่อการป้องกันความร้อน เสียงรบกวน และป้องกันไฟลามได้อย่างครอบคลุม และสอดคล้องกับเกณฑ์ข้อกำหนดด้านเทคนิคของวัสดุใช้งานสำหรับบ้านและอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัย (ทั้งสำหรับการก่อสร้างอาคารใหม่และการบูรณะซ่อมแซม) โดยถูกออกแบบให้เนื้อวัสดุมีความหนาแน่นสูงสุดเพื่อการหน่วงคลื่นเสียงและลดการส่งผ่านของเสียงระหว่างผนังและพื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังมีความหลากหลายของขนาดและความหนาให้เลือกใช้ได้อย่างเหมาะสม รวมถึงการติดตั้งที่สะดวกรวดเร็วและเกิดประสิทธิภาพการใช้อาคารสูงสุด ฉนวนใยแก้วอิโซแวร์ยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะผลิตจากวัสดุธรรมชาติอย่างทรายและผลึกแก้ว ซึ่งสามารถนำไปรีไซเคิลได้ถึง 80%
มร.ซิลแวง เบอแดงง์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "อิโซแวร์ นำเสนอนวัตกรรมแผ่นฉนวนกันความร้อนและเสียงรบกวน อีกทั้งป้องกันไฟลามสำหรับอาคาร โดยให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายและสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้อาคาร และการเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน บ้านเรือนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังรบกวน ซึ่งผู้ที่จะสร้างบ้านจำเป็นต้องนำมาเป็นข้อพิจารณาในการออกแบบและกำหนดคุณสมบัติของวัสดุก่อสร้างด้วย อีกประการหนึ่ง การทำความเย็นให้กับบ้านทุกวันนี้ถือเป็นหนึ่งในค่าใช้จ่ายที่แพงที่สุด ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการลดค่าใช้จ่ายส่วนนี้และลดเสียงรบกวนของบ้านพักอาศัยก็คือการใช้ฉนวนที่มีประสิทธิภาพสูง ทว่า ยังมีบ้านในเมืองไทยจำนวนมากที่ไม่ได้ติดตั้งฉนวน เนื่องจากเจ้าของบ้านมักคิดว่าการติดตั้งฉนวนเป็นเรื่องยุ่งยากหรือมีราคาแพงเกินไป อย่างไรก็ดี ฉนวนใยแก้วอิโซแวร์สามารถยกระดับคุณภาพการอยู่อาศัยด้วยคุณสมบัติการป้องกันเสียงรบกวนได้ดีเยี่ยมและการป้องกันความร้อนที่เป็นเลิศ ทั้งยังติดตั้งง่ายและช่วยเพิ่มมูลค่าให้แก่บ้านที่พักอาศัยและสำนักงานได้เป็นอย่างดี"
ฉนวนใยแก้วอิโซแวร์ (ISOVER Building Insulation) ถือว่ามีบทบบาทสำคัญในการลดอัตราการส่งผ่านคลื่นเสียงในอากาศจากห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นฉนวนในระบบผนังภายในอาคารซึ่งช่วยลดเสียงรบกวนด้วยค่า STC ได้สูงสุดที่ STC 65 (ขึ้นอยู่กับระบบผนังยิปรอคที่ติดตั้ง) หากนำไปติดตั้งในพื้นที่พักอาศัย จะช่วยหน่วงการส่งเสียงรบกวนระหว่างชั้นและเพิ่มความรู้สึกสบายในการพักอาศัยได้อย่างแตกต่าง นอกจากนี้ ฉนวนใยแก้วอิโซแวร์ยังทำหน้าที่เป็นฉนวนระหว่างอากาศภายในและภายนอกอาคาร ลดการส่งผ่านความร้อนและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้อย่างมาก โดยคุณสมบัติการป้องกันเสียงรบกวนและความร้อน ถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมของอาคารพักอาศัยที่เงียบสงบ สะดวกสบาย และเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมของเรา
ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ http://www.gyproc.co.th/ หรือ https://www.facebook.com/GyprocTH
เกี่ยวกับ บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) ฉลองความสำเร็จการดำเนินธุรกิจครบ 50 ปีในประเทศไทย หลังการก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2511 โดยเป็นบริษัทแรกที่ดำเนินการผลิตแผ่นยิปซัมและปูนปลาสเตอร์ในประเทศไทย ผลิตภัณฑ์ของไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการอุตสาหกรรมก่อสร้างทั่วเมืองไทยและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
ปัจจุบันมีโรงงานการผลิต 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี และ อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มนำเสนอสินค้าและการบริการครบวงจร ครอบคลุมทั้งแผ่นยิปซัม ฝ้าเพดาน ระบบโครงสร้าง และปูนปลาสเตอร์ พร้อมโซลูชั่นส์ส์การตกแต่งภายในอาคารที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้บริโภค
เกี่ยวกับ แซง-โกแบ็ง ( Saint-Gobain)
บริษัท ไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่ม จำกัด (มหาชน) เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทแซง-โกแบ็ง เครือบริษัทการผลิตโครงสร้างอาคารรายใหญ่ของโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระดับสูงในการออกแบบ การผลิต และการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้ตรงกลุ่มผู้บริโภคทั้งในวงการก่อสร้าง อุตสาหกรรม และกลุ่มผู้ใช้ทั่วไป
แซง-โกแบ็ง มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 170,000 คน ดำเนินงาน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มนวัตกรรมกระจกแผ่นเรียบ กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้าง และกลุ่มการจัดจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง โดยบริษัทไทยผลิตภัณฑ์ยิบซั่มเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยธุรกิจยิปซัมของแซง-โกแบ็ง ซึ่งมีการดำเนินงานมานานกว่า 353 ปีใน 130 แห่งทั่วโลกและมีพนักงานในหน่วยงานถึง 13,000 คน ฐานการดำเนินงานระดับโลกนี้แสดงให้เห็นว่า แซง-โกแบ็ง สามารถปรับเปลี่ยนธุรกิจให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละประเทศ และนำเสนอโซลูชั่นส์ส์การก่อสร้างที่ยั่งยืนและเหมาะสมสำหรับตลาดในประเทศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี