คุณวัชระ ได้กล่าวถึงเทคโนโลยี Blockchain กับการใช้ในชีวิตประจำวันว่า:
"ในปัจจุบันเทคโนโลยี Blockchain พัฒนาจากอดีตมาก ทำให้เราสามารถนำข้อดีของ Blockchain มาช่วยส่งเสริมการใช้งานในชีวิตประจำวันของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เราได้เดินหน้าจับมือกับพันธมิตรที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจของเราไปสู่ความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นด้วยระบบที่ง่ายต่อการเชื่อมต่อและมีประสิทธิภาพต่อพันธมิตรของเรา"
มีผู้ใช้งานกว่า 10 ล้านราย
ถ้าจะกล่าวถึงปัญหาของนัก Creative Worker ที่คอยสร้างสรรค์ผลงานต่าง ๆ เช่น เพลง การ์ตูน นิยายแล้ว หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่พวกเขาได้เจอนั้นก็คือ การถูกหักรายได้อย่างไม่เป็นธรรม เพราะมีตัวกลาง เช่น สถาบันการเงิน, Payment gateway ที่คอยเป็นตัวกลางในการหักรายได้ของพวกเขาไป
SIX network ได้เห็นถึงปัญหาตรงนี้จึงได้ทำโปรเจกต์ ICO ที่จะมาช่วยนัก Creative Worker กว่า 100 ล้านชีวิตทั่วโลก โดยค่อย ๆ เริ่มต้นจากผู้ใช้ในแพลตฟอร์มพันธมิตรของ SIX เองที่มีอยู่ราว ๆ 10 ล้านคน ทั้งในประเทศไทยและเกาหลีใต้
ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาทาง SIX network ได้เปิดระดมทุน ICO และสามารถจบการขายโทเคนได้ทั้งหมด และได้ประกาศ Roadmap ในปี 2018 ถึง 2019 อย่างรวดเร็ว
Feature ใหม่
เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา SIX network ได้เปิดตัว SIX Wallet ที่มีฟีเจอร์ Multi-signature ช่วยสร้างความปลอดภัยมากกว่า wallet มาตรฐานทั่วไปที่ใช้เพียง Private key อย่างเดียว
พาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง
จนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาทาง SIX network ได้ประกาศความร่วมมือกับ Bezant เพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจในโลกดิจิทัลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และร่วมลงทุนกับ ChomCHOB ซึ่งเป็น Platform ที่รวมแต้มจากผู้ให้บริการต่างมาเปลี่ยนเป็นสินค้าและบริการได้กว่า 200,000 ร้านค้าในประเทศไทย และเมื่อทาง SIX network กับ ChomCHOB สามารถเชื่อมต่อกันสมบูรณ์ SIX token จะกลายเป็น Cryptocurrency แรก ๆ ในโลกที่สามารถเปลี่ยนไปซื้อสินค้าและบริการที่ใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันได้
คุณณัฐวุฒิ Co-CEO of SIX network ยังกล่าวถึงเทคโนโลยีกับแพลตฟอร์ม SIX network อีกว่า:
"SIX network ประกอบไปด้วยแพลตฟอร์มที่มี Creative Worker รวมกันกว่า 10 ล้านคนทั้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูงมาก เราเชื่อมั่นว่า Roadmap ของ SIX network จะช่วยให้พวกเขาเหล่านั้น ได้สัมผัสเทคโนโลยี Blockchain ได้ใกล้มากขึ้นในมุมมองที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด"
เป้าหมายต่อไปของ "SIX"
SIX เปิดแผนพัฒนา 4 ฟีเจอร์ใหม่เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันให้มากขึ้น ประกอบไปด้วย
Seamless Communication
ระบบการสื่อสารระหว่างผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถส่ง Digital Asset ในแอปฯ ได้เลยไม่ว่าจะเป็น Cryptocurrency หรือแต้มสะสมจากผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ SIX network ได้ทันที อีกทั้ง SIX network กำลังอยู่ในการพัฒนา Wallet-to-Wallet Commerce ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้งานทั้งหมดสามารถซื้อขาย Digital Asset ได้โดยตรงผ่านแพลตฟอร์ม เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น
Financial services
ผู้ใช้งานยังสามารถลงทุนจากสินทรัพย์ที่มีด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น การลงทุนผ่านแอพลิเคชั่นที่จัดการโดย ผู้บริหารกองทุนชั้นนำของประเทศ หรือ การนำ Credit-score ในรูปแบบใหม่ที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ตัวอย่างเช่น Social score, Digital identity และ Digital content value จาก แพลท์ฟอร์มอื่นๆ และ สถาบันการเงินชั้นนำของประเทศไทย เป็นต้น และตอบสนองการ Lending ในรูปแบบ Micro-lending หรือ Nano-lending ที่สามารถอ้างอิงมูลค่าหรือพฤติกรรมบน Digital content ยกตัวอย่างเช่น มูลค่าของสิทธิบัตร (Intellectual Property Value) และอื่น ๆ ในรูปแบบดิจิทัลนั่นเอง
Route-to-Market
SIX network ได้เปิดช่องทางที่จะทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถส่งข่าวสารและโปรโมชั่นหรือกิจกรรมให้กับผู้ใช้งานเพื่อสร้าง engagement กับตัวแบรนด์ และเพิ่ม brand loyalty ของผู้ใช้ ผ่านช่องทางสุด exclusive และด้วยบริการทั้งหมดนั้นจะอยู่บนระบบ Ecosystem ของ Blockchain ที่ผูกกับ Tokenization service เอาไว้ ทำให้แบรนด์สามารถสร้างกิจกรรมกับกลุ่มลูกค้าของแบรนด์อย่างตรงเป้าหมายได้ด้วยการแจกโทเคน โดยไม่ผ่านตัวกลางเพื่อเป็นการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่ดี รวมไปถึงไปใช้ในกิจกรรมอื่น ๆ ได้อีกมากมาย
Creator's Platform
SIX network มีเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งในด้าน Social Platform สำหรับ Creative Worker โดยสามารถเผยแพร่ Content และสามารถทำการซื้อขายหรือสนับสนุนผู้สร้าง Content ได้โดยตรงบนแพลตฟอร์ม SIX network ได้ทันที นอกจากนี้ทาง SIX network ยังมีตลาดออนไลน์ (Marketplace) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อขายและแลกเปลี่ยนสินทรัพย์จากแพลตฟอร์มทั้งหมดบน SIX ได้อย่างสะดวกสบาย
ท้ายที่สุดนี้ ทาง SIX network มีเป้าหมายที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับผู้สร้างสรรค์ (Creators) และผู้ใช้งาน (User) เปิดรับพันธมิตร ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คน Offline และ Online และยังมี Feature การลงทุนและการทำธุรกรรมระหว่างกันได้ และสามารถนำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวันอีกด้วย