นายวีรชัย รัตนบานชื่น ประธานคณะกรรมการบริหารด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม (Safety Health Environment & Energy : SHE&En) เปิดเผยว่า ซีพีเอฟประสบความสำเร็จจากการนำระบบมาตรฐาน CPF SHE&En Standard ที่บริษัทสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ และวางนโยบายให้ทุกกลุ่มธุรกิจนำระบบมาตรฐานไปใช้เพื่อเป็นเครื่องมือเสริมสร้างประสิทธิผลของการดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันทุกธุรกิจได้นำมาตรฐานดังกล่าวไปดำเนินการอย่างครบถ้วน โดยได้ไปปรับใช้ในการทำงานของตนเองอย่างสอดคล้องและเป็นรูปธรรม เพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายความยั่งยืนของบริษัท
"ซีพีเอฟต่อยอดความสำเร็จสู่ธุรกิจในต่างประเทศ ด้วยการวางระบบเก็บข้อมูลที่เป็นหัวใจสำคัญต่อของการเริ่มต้นมาตรฐานดังกล่าว และต่อไปจะจัดอบรมเจ้าหน้าที่ของประเทศต่างๆ เพื่อให้สามารถนำมาตรฐานไปใช้ให้สอดคล้องกับธุรกิจของตนเอง" นายวีรชัย กล่าวและว่า
บริษัทยังคงเดินหน้ารับรองมาตรฐาน CPF SHE&En Standard ให้กับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง โดยครั้งนี้ได้มอบใบรับรองแก่ 2 หน่วยงาน สำหรับระดับ Third Party โดยผู้ตรวจประเมินอิสระภายนอก ได้แก่ โรงงานอาหารสำเร็จรูปฉะเชิงเทรา และโรงงานแปรรูปสัตว์น้ำมหาชัย จ.สมุทรสาคร ส่วนอีก 3 หน่วยงาน คือ ศูนย์ปรับปรุงพันธุกรรมกุ้งปะทิว จ.ชุมพร กิจการโรงเพาะฟักลูกกุ้งท่าบอน จ.สงขลา และธุรกิจไก่พันธุ์ จ.สระบุรี ผ่านการรับรองในระดับ Second Party โดยผู้ตรวจประเมินภายในบริษัท
ที่สำคัญในปีนี้มี 2 หน่วยงานของซีพีเอฟที่ได้รับรางวัลใหญ่ระดับประเทศ ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับรางวัลคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานดีเด่นระดับประเทศ จากความโดดเด่นทั้งแง่ความยั่งยืน จากการให้คำมั่นสัญญาของผู้บริหารระดับสูง การมีส่วนร่วม การนำไปปฏิบัติ การพัฒนาบุคลากร ขณะเดียวกันยังคำนึงถึงผลกระทบทั้งด้านผลการอนุรักษ์พลังงาน ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ ดัชนีประสิทธิภาพพลังงาน และผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการนำไปใช้ได้อย่างแพร่หลาย
ส่วนโรงงานผลิตอาหารสัตว์บางนา กม.21 ได้รับรางวัล Thailand Energy Awards 2018 ด้านอนุรักษ์พลังงาน ประเภทโรงงานควบคุมดีเด่น จากความสำเร็จด้านการอนุรักษ์พลังงาน และความโดดเด่นในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยมุ่งเน้นลดการใช้พลังงานทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อนลงในทุกๆปี โดยปีนี้มีเป้าหมายลดการใช้พลังงานลงจากปีที่แล้ว 3% และตั้งแต่ปี 2557-2560 ที่โรงงานมีการจัดทำโครงการมากกว่า 20 โครงการ ช่วยให้สามารถลดการใช้พลังงานลงได้เฉลี่ยโครงการละ 100,000 บาทต่อปี