ผู้นำ เพื่อเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงภาคเกษตรกรรรมของประเทศ ให้มีความเข้มแข็ง สามารถแข่งขัน และก้าวทันสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระทรวงเกษตรฯ ได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้มาโดยตลอด และได้มีการจัดตั้งศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) จำนวน 882 ศูนย์ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน โดยเน้นการเรียนรู้จากเกษตรกรต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ ให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกันเอง รวมทั้งมีหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ คอยเป็นพี่เลี้ยง โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาลผลิต เพื่อให้เกษตรกรที่มาเรียนรู้เกิดความรู้ ความเข้าใจ สามารถนำความรู้ที่ได้รับจาก ศพก. ไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับไร่นาของตนเอง รวมทั้งส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ซึ่งสนับสนุนให้เกษตรกรรวมกลุ่มกัน ผลิต จำหน่ายและบริหารจัดการร่วมกัน ทั้งในรูปของกลุ่มเกษตรกร/วิสาหกิจชุมชน/สหกรณ์ เป็นการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต พัฒนาคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานตามความต้องการของตลาด เชื่อมโยงการตลาด และบริหารจัดการให้เกิดความสมดุลระหว่างอุปทานและอุปสงค์ของสินค้า ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างเครือข่าย ศพก. เครือข่ายแปลงใหญ่ และเครือข่าย Young Smart Farmer ทั้งในระดับจังหวัด เขต และประเทศ เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนการปฏิรูปภาคการเกษตรโดยภาคประชาชน จำนวน 4,007 แปลง พื้นที่ 5,173,105.5 ไร่ มีเกษตรกรเข้าร่วมจำนวน 320,453 คน
ในโอกาสนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการยกระดับการพัฒนาการผลิตสินค้าเกษตรแปลงใหญ่ ตามนโยบายตลาดนำการผลิต เพื่อแสดงศักยภาพทางการตลาดของสินค้าจากระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ระหว่างผู้แทนสถาบันเกษตรกร และผู้แทนบริษัทเอกชน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินโครงการส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ที่มุ่งเน้นให้เกษตรกรรวมกลุ่มดำเนินการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตามที่คู่ค้ากำหนด และสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทุกขั้นตอนการผลิต ในราคาที่เป็นธรรม เพื่อสร้างความมั่นใจแก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค รวมทั้งการส่งเสริมความร่วมมือด้านการตลาดกับบริษัทเอกชน สามารถผลักดันให้มีช่องทางการจำหน่ายผลผลิตให้กับเกษตรกร ตลอดจนการวางแผนซื้อ-ขายผลผลิตสินค้าเกษตรล่วงหน้าให้มีตลาดรองรับ ช่วยกันรักษาเสถียรภาพของราคาผลผลิต เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้แก่เกษตรกรด้วย
ด้านนายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมส่งเสริมการเกษตรได้พัฒนาและสร้างเกษตรกรรุ่นใหม่ (Young Smart Farmer) ซึ่งความสามารถของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่หันมาทำการเกษตรด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนจากทำมากได้น้อย เป็นทำน้อยได้มาก สอดคล้องกับโมเดล Thailand 4.0 เกิดการเปลี่ยนแปลงจากการเกษตรแบบดั้งเดิมไปสู่การเกษตรสมัยใหม่ เน้นการบริหารจัดการและเทคโนโลยี (Smart Farming) และการเกษตรแม่นยำสูง (Precision Farming) และนำไปสู่การพัฒนาเข้าสู่เปิดตลาดสินค้าเกษตรออนไลน์ ในการรวมพลังครั้งนี้ มีเกษตรกรแปลงใหญ่ เกษตรกรผู้นำ ศพก. และ เกษตรกรรุ่นใหม่ (young smart farmer) จะนำไปสู่การสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งในอนาคตต่อไป