นายแพทย์ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุถึงการใช้ยาในทางที่ผิดหรือใช้โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เป็นปัญหาที่สำคัญซึ่งมักเกิดกับผู้ใช้ยาในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจาการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ซึ่งเป็นสารที่สังเคราะห์ขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ในการรักษาโรคโดยกฎหมายกำหนดให้เป็นยาควบคุมพิเศษ เนื่องจากมีความเป็นพิษสูงจึงต้องให้แพทย์เป็นผู้สั่งจ่ายเท่านั้นยาสเตียรอยด์จะถูกใช้เมื่อใช้ยาอื่นไม่ได้ผล หรือโรคนั้นไม่อาจควบคุมด้วยยาอื่น เนื่องจากมีอาการข้างเคียงสูง วัตถุประสงค์ที่นำสเตียรอยด์ไปใช้เพื่อบรรเทาอาการอักเสบ และกดภูมิคุ้มกันในโรคต่าง ๆ เช่น โรคภูมิแพ้โรคผิวหนังโรคตา และโรคข้ออักเสบชนิดรูมาตอยด์ เป็นต้น
ทั้งนี้ อันตรายจากการใช้สเตียรอยด์ซึ่งมีผลต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกายแทบทุกระบบ อาจนำไปสู่อันตราย ได้แก่การติดเชื้อกดการหลั่งฮอร์โมนภายในร่างกายแผลในกระเพาะอาหารกระดูกผุยับยั้งการเจริญเติบโตของร่างกายทำให้ระดับโปแตสเซียมในเลือดต่ำกล้ามเนื้ออ่อนแรงผลต่อระบบประสาทส่วนกลางและโดยเฉพาะผลต่อตาเนื่องจากยาสเตียรอยด์มีความเสี่ยงในการเป็นต้อหินได้
ปัจจุบันต้อหินเป็นสาเหตุภาวะตาบอดเป็นอันดับที่ 2 รองจากต้อกระจกและเป็นสาเหตุภาวะตาบอดที่ไม่สามารถรักษาได้เป็นอันดับ 1 โดยปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญของโรคต้อหินคือความดันลูกตาสูง ซึ่งอาการความดันลูกตาสูงเกิดจากภาวะไม่สมดุลระหว่างการสร้างและการระบายออกของน้ำในลูกตาซึ่งมีการสร้างมากกว่าการระบายออก ทำให้ความดันลูกตาสูงขึ้น โดยสาเหตุที่ทำให้การระบายออกของน้ำในลูกตาลดลงเกิดจากอายุที่มากขึ้นอุบัติเหตุที่มุมตาและการใช้ยาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์
การใช้ยาสเตียรอยด์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกิน พ่นจมูกหยอดตาหรือฉีดยาสามารถทำให้เกิดความดันลูกตาสูงได้โดยพบว่าประมาณ 18 - 36 % ของคนทั่วไปจะพบความดันลูกตาสูงจากการใช้ยาสเตียรอยด์และความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นเป็น 46 - 92 % ในคนไข้ต้อหินมุมตาเปิดชนิดปฐมภูมินอกจากนี้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานหรือสายตาสั้นมากจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะความดันลูกตาสูงได้มากกว่าคนทั่วไป
ดังนั้นการใช้ยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์ จึงต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์กำกับเท่านั้น หากมีการใช้ยาสเตียรอยด์โดยไม่มีการควบคุมโดยแพทย์จะส่งผลเสียต่อสุขภาพตาของประชาชนเป็นอย่างมาก
จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังในการซื้อยาหยอดตาที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์จากร้านขายยาทั่วไป เนื่องจากการใช้ยาหยอดตาดังกล่าวเป็นระยะเวลานานเป็นสาเหตุทำให้เกิดความดันลูกตาสูงขึ้น และต้อหินตามมา ซึ่งเป็นอันตรายส่งผลให้ตาบอดได้