สำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการนี้ก็เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้เป็นตัวแทนในการกระตุ้นคนในครอบครัวและส่วนรวมให้มีความรู้เกี่ยวกับขยะพิษ ตระหนักรู้ถึงโทษของขยะพิษ และมีการกำจัดคัดแยกขยะพิษเคร่งครัดยิ่งขึ้น
"ประเทศไทยมีปัญหาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมหลายด้าน ขยะพิษก็เป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่โดยเฉพาะในเขตเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีขยะอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นซากชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ มือถือ แบตเตอรี่ ถ่านไฟฉาย สเปรย์ ขยะพิษเหล่านี้เป็นของใกล้ตัว แต่เรายังไม่ได้ตระหนักรู้ถึงอันตราย และกำจัดขยะอย่างถูกวิธี
ทางมูลนิธิเห็นว่าเยาวชนเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วยเผยแพร่ความรู้และกระตุ้นให้เกิดการตื่นตัวตระหนักรู้ถึงอันตรายของขยะพิษในวงกว้าง ทั้งจากการปฏิบัติตัวของเขาเอง และขยายความรู้แก่คนใกล้ตัว จึงได้จัดทำโครงการนี้ขึ้น" ทพญ.พจนพรรณ กล่าว
โครงการนี้ได้ดำเนินการระหว่างวันที่ 16 กรกฎาคม-31 สิงหาคม 2561 มีคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ในกรุงเทพมหานครเข้าร่วมราว 9,102 คน รวมจำนวนโรงเรียนทั้งหมด 15 แห่ง โดยโรงเรียนที่ชนะเลิศได้รับถ้วยรางวัลพระราชทานฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คือ โรงเรียน นวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย ส่วนรองชนะเลิศ คือ โรงเรียน มัธยมบ้านบางกะปิ ซึ่งจะได้รับถ้วยรางวัลจากนพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนที่ได้รับรางวัลโล่ชมเชยอีก 3 รางวัล โดยเป็นรางวัลจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และมูลนิธิไทยรวมใจ คือ โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย, โรงเรียนอุดมศึกษา และโรงเรียนเซนต์ปีเตอร์ธนบุรี และจะมีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 21 กันยายนนี้ ณ ห้องชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กรมอู่ทหารเรือ เวลา 13.00 น.
"โครงการนี้เราได้รับความสนใจจากนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่า เยาวชนของเราตื่นตัวในปัญหานี้ และมีจิตสำนึกที่จะมีส่วนช่วยทำให้สังคมของเราดีขึ้น
การให้ความรู้เรื่องกำจัดขยะพิษ นอกจากจะช่วยผลปริมาณขยะพิษแล้วหากประชาชนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมร่วมกันคัดแยกกำจัดขยะพิษถูกต้อง ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการร่วมแก้ปัญหาขยะพิษของประเทศในระยะยาว ส่งผลให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น สุขภาพอนามัยของประชาชนมีความปลอดภัยขึ้น" ประธานมูลนิธิไทยรวมใจกล่าว