กสิกรไทยตั้ง 2 ฝ่ายใหม่ สร้างตำแหน่งงาน “Data Alchemist” ดันใช้บิ๊กดาต้าหนุนธุรกิจ หวังสร้างมูลค่าเพิ่ม 2 พันล้านบาทในปีนี้

อังคาร ๑๘ กันยายน ๒๐๑๘ ๐๙:๔๙
ธนาคารกสิกรไทยเดินหน้าสู่การเป็นธนาคารที่ขับเคลื่อนด้วยดาต้า ประกาศจัดตั้ง 2 ฝ่ายใหม่ดูแลการสร้างความสามารถด้าน Data Analyticsกำหนดแผนสรรหาและพัฒนาบุคลากรด้าน Data Alchemist วางเป้าหมายสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ธนาคารไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท ในปีนี้

นายพิพิธ เอนกนิธิ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันธนาคารกสิกรไทยมีบิ๊กดาต้า เป็นข้อมูลเกี่ยวธุรกรรมการเงินประเภทต่าง ๆ จำนวนมหาศาล และเพิ่มขึ้นตลอดเวลา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาศึกษาเพื่อเพิ่มความเข้าใจลูกค้า ตลอดจนใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์นำไปสู่การพยากรณ์และนำเสนอวิธีการใหม่ ๆ ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจ เพิ่มความสามารถการแข่งขัน แสวงหาโอกาสทางธุรกิจ สร้างรายได้ให้แก่ธนาคารในระยะยาว และสามารถเพิ่มประสิทธิผลและลดต้นทุนการทำธุรกิจได้ ดังนั้นธนาคารจึงจัดตั้ง 2 ฝ่ายงานใหม่ ภายใต้สายงานบริหารยุทธศาสตร์องค์การ เพื่อสร้างความสามารถสูงสุดด้าน Data Analytics ให้กับองค์กร ได้แก่

Enterprise Data Analytics Department (EA) เป็นศูนย์กลางดูแลการสร้างความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก (Analytics Use Case) ของธนาคาร สรรหาและจัดสรรทรัพยากร เพื่อสนับสนุนการวิเคราะห์ข้อมูล ติดตามและขยายผลให้มีการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจ (Business Data Analytics) อย่างแพร่หลายจนเป็นวัฒนธรรมองค์กร รวมทั้งมีหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกทั้งกับหน่วยงานของธนาคารและลูกค้าของธนาคาร เพื่อสนับสนุนการวางกลยุทธ์ของธนาคารที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

Digital Lending Department (DL) รับผิดชอบการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกจากหลายฐานข้อมูล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์สินเชื่อได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในราคาที่เหมาะสมกับระดับความสี่ยงของลูกค้าแต่ละราย (Personalized Risk Based Pricing) ช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และประสิทธิผลให้ธนาคาร พร้อมลดความเสี่ยงด้านเครดิต ดูแลเรื่องการสร้างรูปแบบการปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัล (Digital Lending Platform) ให้เกิดการดำเนินการเบ็ดเสร็จบนแอปพลิเคชัน K PLUS เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่ลูกค้าในยุคดิจิทัล ซึ่งลูกค้าสามารถทราบผลอนุมัติและได้รับเงินเข้าบัญชีภายใน 1 นาที รวมทั้งพัฒนาบริการ Lending Service Platform เพื่อแสวงหารายได้จากช่องทางใหม่ ๆ ให้แก่ธนาคาร

นอกเหนือจากนั้น ธนาคารมีแผนสรรหา และพัฒนาบุคลากรด้าน Data Analytics ให้มีการยกระดับงานด้านนี้ให้มีความพิเศษ น่าสนใจ และแตกต่างจากองค์กรอื่นๆ โดยเพิ่มตำแหน่งงาน Data Alchemist ที่เน้นการผสมสานการใช้บิ๊กดาต้า เข้ากับเทคนิค Advanced Analytics ในการหาสูตรเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ โดยทำงานร่วมกับหน่วยธุรกิจแบบไร้รอยต่อ ภายใต้ Concept: Turning Data into Gold; the Ultimate of Advanced Analytics โดยมองว่าโอกาสและความท้าทายทางธุรกิจที่ธนาคารเผชิญอยู่ในปัจจุบัน เป็นช่วงเวลาที่ดีที่ให้บุคลากรด้าน Data Analytics ของประเทศได้เข้ามาเรียนรู้ พัฒนา และเพิ่มขีดความสามารถของตัวเองแบบก้าวกระโดด โดยธนาคารจะมีการปรับแผนการพัฒนาศักยภาพ ตลอดจนดูแลการจัดการเรื่องการเติบโตทางอาชีพ ให้มีความเข้มข้น ชัดเจน และเหมาะสมกับความสามารถของพนักงานกลุ่มนี้

ธนาคารกสิกรไทย มีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นธนาคารที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Bank) ซึ่งการสร้างวัฒนธรรมองค์กรของการใช้ข้อมูลเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ (Data-Driven Culture) โดยวางรากฐานสำคัญ 4 ด้านให้เกิดขึ้นในธนาคาร ได้แก่

1. ด้าน Data สร้างฐานข้อมูลแบบรวมศูนย์เพื่อให้เกิดข้อมูลหนึ่งเดียว (Single source of truth) พร้อมส่งเสริมให้มีการเข้าถึงข้อมูลแบบข้ามฝ่ายงาน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ข้อมูลในรูปแบบใหม่ ๆ โดยยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลลูกค้าไว้สูงสุด

2. ด้าน Infrastructure & Tools จัดเตรียมซอฟร์แวร์ด้านการวิเคราะห์ข้อมูลรูปแบบต่าง ๆ ที่พร้อมตอบสนองการใช้งานของธุรกิจธนาคารในทุกระดับ

3. ด้าน Talent มีการจัดหลักสูตรพัฒนาทักษะพนักงานเป้าหมายทั้งธนาคารให้สามารถใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลชั้นสูงได้ เพื่อนำไปสู่การสร้างประโยชน์แพร่กระจายในแต่ละหน่วยงานทั่วทั้งองค์กร พร้อมจัดตั้ง community ของบุคลากรด้านดาต้าเพื่อการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ระหว่างกัน

4. ด้าน Process สร้างกระบวนการทำงานที่กระตุ้นให้เกิดการนำดาต้ามาใช้งานจริง (Use Cases) ส่งสริมให้ฝ่ายงานต่าง ๆ มีการตั้งคำถามที่มีความหมาย และนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อหาคำตอบที่ช่วยตอบสนองโจทย์ทางธุรกิจ ทั้งในด้านการแก้ปัญหาและการสร้างธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ

นายพิพิธ กล่าวเสริมว่า ภายใต้กลยุทธ์ที่วางไว้ ธนาคารจะสามารถไปสู่ Data-Driven Bank ได้อย่างสมบูรณ์และจะสร้างบริการที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยตั้งเป้าหมายภายในปี 2561 ธนาคารจะสามารถนำฐานข้อมูลบิ๊กดาต้ามาพัฒนาเป็นการใช้งานจริง (Use Cases) ได้ไม่ต่ำกว่า 400 กรณี สร้างรายได้หรือลดต้นทุนให้แก่ธนาคารเป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 2,000 ล้านบาท และภายในปี 2563 จะใช้บิ๊กดาต้าสร้างรายได้หรือลดต้นทุนให้แก่ธนาคาร เป็นมูลค่าไม่น้อยกว่า 50% ของทั้งหมด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version