นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้การบริหารสวัสดิการแรงงานแบบยืดหยุ่นเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตวัยแรงงานรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่ภาคตะวันออก หรือ EEC โดยกำหนดไว้ในยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนยุทธศาสตร์ภายใต้ไทยแลนด์ 4.0 เพื่อผลักดันให้เกิดการพัฒนาด้านการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งจะทำให้ประชาชนมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น ผลพวงจากการพัฒนาดังกล่าวก่อให้เกิดบริบทของการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ้างงาน รูปแบบการทำงานคนทำงานสามารถนำเสนอผลงานผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีสามารถทำงาน ณ สถานที่ใดก็ได้ไม่จำกัดอยู่เพียงการทำงานในสถานประกอบกิจการเท่านั้น ดังนั้น รูปแบบการจัดสวัสดิการแรงงานจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้อง เหมาะสมกับบริบทของการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เกิดผลดีต่อลูกจ้างในด้านต่าง ๆ อาทิ การลดรายจ่ายในการดำรงชีวิต สุขภาพอนามัย สิ่งอำนวยความสะดวก เป็นต้น จึงเกิดเป็นการพัฒนารูปแบบการจัดสวัสดิการที่มีความหลากหลาย ลูกจ้างสามารถเลือกหรือเปลี่ยนแปลงได้และนายจ้างสามารถจัดสวัสดิการ ได้ตรงตามความต้องการของลูกจ้าง โดยไม่ส่งผลกระทบแก่สถานประกอบกิจการ
นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปว่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของกสร. ได้มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ตลอดจนเป็นกำลังสำคัญในการรณรงค์ส่งเสริมและเผยแพร่ความรู้ให้แก่นายจ้าง ลูกจ้างเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการแรงงานแบบยืดหยุ่น กสร. จึงได้จัดโครงการเสริมสร้างองค์ความรู้การบริหารสวัสดิการแรงงานแบบยืดหยุ่นเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตวัยแรงงานรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกขึ้น โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการส่งเสริมสวัสดิการแรงงานทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคเข้าร่วมโครงการ รวม 120 คน โดยมุ่งเน้นให้สามารถนำความรู้ที่ได้รับไปถ่ายทอดสู่นายจ้าง ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตวัยแรงงานรองรับเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ