กสิกรไทยและวีซ่าร่วมโครงการนำร่องพัฒนาระบบการชำระเงินระหว่างธุรกิจ ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน

พฤหัส ๒๐ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๓:๕๑
กสิกรไทยเป็นธนาคารแรกของไทยที่เริ่มพัฒนาระบบการชำระเงินข้ามประเทศที่ไม่ยุ่งยากและโปร่งใสมากขึ้น

วีซ่า แถลงถึงความร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทยในการริเริ่มโครงการนำร่อง "วีซ่า บีทูบี คอนเนค (Visa B2B Connect)" ซึ่งวีซ่าได้พัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยให้สถาบันการเงินสามารถประกอบธุรกรรมชำระเงินข้ามประเทศระหว่างธุรกิจด้วยความไม่ยุ่งยาก รวดเร็วและปลอดภัย รวมทั้งมีความโปร่งใสมากขึ้น โดยโครงการนำร่องดังกล่าวขณะนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบกล่องทรายทดสอบธุรกรรม (regulatory sandbox) ของธนาคารแห่งประเทศไทย

ธนาคารกสิกรไทย เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ นอกเหนือจากธนาคารอื่นๆ อีกหลายแห่งทั่วโลก

คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่าประจำประเทศไทย กล่าวว่า "เราภูมิใจที่มีตัวแทนธนาคารจากประเทศไทยที่ได้เข้าร่วมโครงการนำร่องนี้ Visa B2B Connect คือแพลตฟอร์มการทำธุรกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ โดยสร้างอยู่บนพื้นฐานเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับวิสาหกิจที่ออกแบบมาเพื่อดำเนินธุรกรรมการแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงระหว่างธนาคาร ในนามของลูกค้าองค์กร โดยขั้นตอนการทำธุรกรรมจะอยู่ภายใต้การบริหารโดยวีซ่าแบบครบวงจร พร้อมทั้งมีการนำเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย การกำกับดูแล และเทคโนโลยีรายการเดินบัญชีแบบกระจายตัว หรือ Distributed Ledger"

คุณศิริพร วงศ์ตรีภพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า "ธนาคารกสิกรไทยมุ่งเน้นสรรหานวัตกรรมใหม่แบบครบวงจรเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า และด้วยความเป็นพันธมิตรกับวีซ่า เราภูมิใจที่จะได้มีส่วนร่วมในโครงการนำร่อง Visa B2B Connect ซึ่งนับเป็นก้าวแรกในบริบทใหม่ของการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้สำหรับการทำธุรกรรมชำระเงินข้ามพรมแดน ในฐานะผู้บุกเบิก เราเชื่อว่าธนาคารจะเป็นผู้นำในตลาดซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าองค์กรของธนาคาร เนื่องจากการทำธุรกรรมการชำระเงินจะมีความปลอดภัยมากขึ้น"

"เรามุ่งมั่นร่วมมือกับธนาคารพันธมิตรของเราเพื่อให้เข้าถึงผลิตภัณฑ์ เครื่องมือต่างๆ และความเชี่ยวชาญของวีซ่า ที่จะสามารถนำไปสู่การเติบโตทางธุรกิจและความสำเร็จต่อไป นอกจากนี้ด้วยความสามารถทางเทคโนโลยี และเครือข่ายของ วีซ่า เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับธนาคารกสิกรไทยในการเสริมสร้างวิธีการชำระเงินที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นและไร้รอยต่อในตลาดธุรกิจ หรือ B2B ทั่วโลก" คุณสุริพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้วย Visa B2B Connect วีซ่าตั้งใจที่จะพัฒนาการชำระเงินในรูปแบบ B2B ในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ด้วยการใช้เวลาที่สั้นลงในการประมวลผล และเพิ่มชัดเจนในการติดตามขั้นตอนกระบวนการการทำธุรกรรมให้สูงขึ้น โดยผลลัพธ์ที่จะมีต่อลูกค้าธนาคารคือความสามารถในการลดต้นทุน และทรัพยากรที่ธนาคารและลูกค้าจำเป็นต้องใช้ในการรับส่งข้อมูลการใช้จ่ายทางธุรกิจได้อย่างมหาศาล

เกี่ยวกับ B2B Connect

Visa B2B Connect ได้รับการออกแบบมาเพื่อปรับปรุงการชำระเงินแบบ B2B โดยให้บริการระบบที่:

- คาดการณ์ได้และโปร่งใส: ธนาคารและลูกค้าบริษัทของธนาคารจะได้รับการแจ้งเตือนอย่างรวดเร็วเกือบจะในทันทีหลังจากธุรกรรมการชำระเงินสิ้นสุดลง

- ปลอดภัย: การทำธุรกรรมที่ให้มีการลงนามและเชื่อมโยงรหัสข้อมูลได้รับการออกแบบมาเพื่อให้แน่ใจว่าระบบบันทึกข้อมูลมีความปลอดภัยและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

- ความไว้วางใจ: ทุกฝ่ายในเครือข่ายเป็นผู้เข้าร่วมที่ต่างก็รู้จักกันในเครือข่ายบล็อกเชนส่วนตัว ที่ได้รับอนุญาตและดำเนินการโดยวีซ่า

เกี่ยวกับวีซ่า

Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้และมีความปลอดภัยมากที่สุด ช่วยให้ผู้บริโภค ธุรกิจต่างๆ และเศรษฐกิจสามารถเจริญเติบโตได้ VisaNet (วีซ่าเน็ต) ซึ่งเป็นเครือข่ายประมวลผลระดับโลกที่ทันสมัยของเราให้บริการชำระเงินที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ทั่วโลก และมีความสามารถในการจัดการธุรกรรมมากกว่า 65,000 รายการต่อวินาที บริษัทมีความพยายามอย่างไม่หยุดยั้งในการสร้างนวัตกรรมเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วของการค้าที่เชื่อมโยงโดยอุปกรณ์ใดๆ ก็ได้ และเป็นแรงผลักดันความฝันในการสร้างสังคมไร้เงินสดในอนาคตสำหรับทุกคนและทุกสถานที่ ในขณะที่โลกเปลี่ยนจากอนาล็อกเป็นดิจิทัล วีซ่าจะใช้แบรนด์ ผลิตภัณฑ์ พนักงาน เครือข่ายและขอบเขตธุรกิจของเรา ในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพาณิชย์ในอนาคต ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถหาได้จาก About Visa และ visacorporate.tumblr.com และ @VisaNews.

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ