ภายในงานแบ่งเป็น 5 โซน ประกอบด้วย นิทรรศการนวัตกรรมด้านอาหารและวิชาการ, การออกร้านของผู้ประกอบการโครงการอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง, การออกร้านของผู้ประกอบการโครงการส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทย Authentic, การออกร้านของผู้ประกอบการ SME ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และเวทีกิจกรรมเสวนา รวมทั้งกิจกรรมความบันเทิงต่างๆ ส่วนพื้นที่ด้านหน้าได้มีการแสดงสินค้าภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุนตามแนวชายแดนและเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง กว่า 750 ผลิตภัณฑ์
งานนี้ เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของหน่วยงานหลายภาคส่วน เป็นกิจกรรมที่ช่วยผลักดันให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างช่องทางการค้าใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ OTOP ไทย ให้เกิดการต่อยอด ขยายช่องทางการตลาด และที่สำคัญเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ และเป็นประตูการค้าของประเทศไทยไปสู่ภูมิภาค ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม รวมทั้งเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง
" เราคัดเลือกผู้ประกอบการในโครงการต่างๆของ สสว. กว่า 320 ราย ทั้งกลุ่มอาหาร เสื้อผ้าสิ่งทอ และเครื่องประดับ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน มาร่วมออกร้านในครั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่เราคาดหวังคือการเชื่อมโยงเครือข่ายของผู้ประกอบการทั่วประเทศ กับผู้ประกอบการในพื้นที่ เพิ่มโอกาสทางการตลาด ทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ทดสอบตลาดผ่านการพบปะผู้บริโภคด้วยตนเอง จึงขอเชิญชวนประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการที่สนใจ มาร่วมมาช็อป ชิม ศาสตร์และศิลป์ของอาหารที่รวบรวมผลิตภัณฑ์คุณภาพทั่วทุกภาคมาไว้ในงานเดียว และลุ้นกับการมอบโชคสองชั้นให้กับผู้ซื้อสินค้าในงาน เพียงซื้อครบ 500 บาทขึ้นไป รับสิทธิลุ้นรับของรางวัลสุดพรีเมียมอีกหนึ่งชิ้นกลับบ้านทันที ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 23 กันยายนนี้ " นายวชิระ กล่าว
สำหรับจังหวัดชลบุรี ถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดอันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงเทพฯ โดยปี 2560 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวสูงถึง 16 ล้านคน หากสามารถดึงนักท่องเที่ยวดังกล่าวเข้ามาเยี่ยมชมงานได้ ก็จะเป็นการสร้างการรับรู้ เผยแพร่ประสบการณ์ไปสู่ตลาดโลกได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยคาดการณ์ว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 30,000 คน เป็นนักท่องเที่ยว 50% และคนในพื้นที่ 50% สามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายสินค้าภายในงาน กว่า 10 ล้านบาท กระตุ้นให้เกิดการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท