นางสุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด เปิดเผยว่า โครงการใหม่ที่เมืองพัทยาเป็นโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส มูลค่า 6,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งที่ 2 ของกลุ่ม แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล ต่อจากโครงการเทอร์มินอล21 ที่อโศก กรุงเทพฯ โดยที่เมืองพัทยามีพื้นที่กว่า 33 ไร่ ประกอบไปด้วยโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา จำนวน 396 ห้อง สวนน้ำลอยฟ้าพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตรและ ห้องประชุมสัมมนา จับกลุ่มตลาดพรีเมี่ยม และศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา ประกอบด้วยพื้นที่ช้อปปิ้งมอลล์ 6 ชั้น โรงภาพยนตร์ ซุปเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์อาหารPier 21 และร้านค้ามากกว่า 500 ร้านค้า โดยโครงการดังกล่าวตั้งอยู่บริเวณพัทยาเหนือ และมีทางเข้าออกได้มากถึง 3 เส้นทางหลัก คือถนนพัทยาเหนือ ถนนพัทยาสาย 2 และถนนเพ็ชรตระกูล
สำหรับโครงการฯดังกล่าว กลุ่ม แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล ยังมีความมั่นใจในการลงทุนและยังเชื่อมั่นศักยภาพในเมืองพัทยา โดยเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ มีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นเอกลักษณ์ พื้นที่เมืองพัทยายังครอบคลุมไปถึงเกาะล้าน เกาะครก และเกาะสาก ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้หลากหลายรูปแบบทั้งเดินเล่นชายหาด เล่นน้ำ ดำน้ำดูปะการัง และกีฬาทางน้ำ นอกจากนี้ยังมีสถานที่และกิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ มากมาย ไม่เพียงแต่แหล่งท่องเที่ยวกลางคืนที่เป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกแล้ว แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวในรูปแบบอื่น ๆ เช่น ปราสาทสัจธรรม พิพิธภัณฑ์ริปลีย์ส สนามโกคาร์ท หมู่บ้านช้างพัทยา เมืองจำลอง ตลาดน้ำสี่ภาค อันเดอร์วอเตอร์เวิลด์ เป็นต้น เมืองพัทยาจึงถือได้ว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีการให้บริการแบบครบวงจรสามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ในทุกรูปแบบพฤติกรรมการบริโภค การท่องเที่ยว และทุกระดับฐานะทางเศรษฐกิจสังคม โดยกลุ่ม แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล คาดว่าในปีที่ 2 โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ตั้งเป้ามีอัตราเข้าพัก 88% และศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา ตั้งเป้ามีลูกค้าใช้บริการเฉลี่ยมากกว่า 5 หมื่นคนต่อวัน
ด้านนายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ผู้พัฒนาศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, เทอร์มินอล21 อโศก, เทอร์มินอล21 โคราช, เดอะ พรอมานาด และไลฟ์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา เป็นโครงการใหม่ล่าสุดของเราในปี 2561 ซึ่งนับเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ระยะยาวจากเครือแลนด์แอนด์เฮาส์ในตลาดภูมิภาคแห่งแรก บนพื้นที่โครงการ 33 ไร่ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา ประกอบด้วยพื้นที่ช้อปปิ้งมอลล์ 6 ชั้น ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ SFX จำนวน 7 โรง ฟู้ดแลนด์ซุปเปอร์มาร์เก็ต 24 ชั่วโมงบนพื้นที่กว่า 2,000 ตารางเมตร ศูนย์อาหารPier 21ฟู้ดคอร์ท มากกว่า 30 ร้านค้าบนพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร พื้นที่รวมของอาคารกว่า 180,000 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิดท่าอากาศยานแห่งการช้อปปิ้งสุดชิคที่ยกโลกทั้งใบมารวมไว้ในที่เดียว พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการช้อปปิ้งท่ามกลางบรรยากาศที่ออกแบบสถาปัตยกรรมล้ำสมัยสไตล์ มาร์เก็ตสตรีท จากแรงบันดาลใจของ 6 มหานคร แหล่งการช้อปปิ้งระดับโลก ได้แก่ ปารีส, ลอนดอน, อิตาลี, โตเกียว, ซานฟรานซิสโก และฮอลลีวูด เชื่อมต่อถึงกันด้วยดีไซน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมเอกลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใครของบันไดเลื่อนที่ยาวที่สุดในศูนย์การค้าของประเทศไทยความยาวรวม 39 เมตร ตระการตาไปกับเครื่องบินบนรันเวย์ที่ยาวกว่า 250 เมตร ติดชายหาดจำลอง ซึ่งน่าจะดึงดูดผู้มาเยือนมากกว่า 5 หมื่นคนต่อวัน
นายกิตติ วรบรรพต กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด กล่าวว่าสำหรับโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา โรงแรมระดับ 5 ดาว เป็นอาคารสูง 32 ชั้น โดดเด่นด้วยการออกแบบที่หรูหรา ภายใต้คอนเซปส์ "A Journey of Discovery" เดินทางสู่มุมพักผ่อนอันสวยงามหลากหลายด้วยพื้นที่ภายในบริเวณโรงแรมที่ถูกออกแบบตกแต่งอย่างสุดประทับใจควรค่าแก่ความทรงจำและการถ่ายภาพสวยๆ ไปฝากครอบครัวและพรรคพวกเพื่อนฝูงเป็นอย่างยิ่งโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ตั้งอยู่เหนือ ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา บริเวณวงเวียนโลมาใจกลางพัทยาเหนือ เป็นหนึ่งในศูนย์กลางสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยว นักธุรกิจ ครอบครัว คู่รัก และนักเดินทางจากทั่วโลก ที่นี่เพียบพร้อมด้วยกิจกรรมการท่องเที่ยว และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายสำหรับผู้มาเยือน โดยจำนวนห้องพักแบบดีลักซ์ (Deluxe) และห้องสวีท (Suite) ทั้ง 396 ห้อง ตั้งอยู่ตั้งแต่ชั้น 11 ขึ้นไป ทุกห้องพักออกแบบให้เห็นวิวทะเลทั้งหมดด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่รับแสงธรรมชาติและระเบียงส่วนตัว ภายในออกแบบและตกแต่งสไตล์คลาสสิคเน้นโทนสีน้ำเงินเข้ม-สีฟ้าน้ำทะเลผสมผสานกันได้อย่างลงตัว ห้องพักทุกห้องประดับด้วยกลุ่มดวงดาว ซึ่งมีประกายระยิบระยับเหนือเตียงที่พักสร้างการพักผ่อนในวันแสนสบายและการหลับที่เป็นสุขพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักอย่างครบครัน โดยเฉพาะบริการพิเศษอันเป็นมาตรฐานของกลุ่มโรงแรมในเครือ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ อย่าง Free Wi-Fi ครอบคลุมทุกจุดของโรงแรม เครื่องผลิตน้ำแข็ง และตู้ขายของอัตโนมัติในราคาประหยัดบริการในทุกชั้นตลอด 24 ชั่วโมง บริการเครื่องดื่มต้อนรับฟรีทั้งชา กาแฟ น้ำผลไม้ที่ลอบบี้ และ ขนมเครื่องดื่มให้บริการฟรีในห้องพัก นอกจากนี้แล้วทางโรงแรมยังขยายพื้นที่ส่วนกลางให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ทั้งสวนน้ำ (Water Park) ขนาดใหญ่ อาณาจักรแห่งความสนุกชุ่มฉ่ำใจกลางเมืองพัทยาซึ่งมีพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร ซึ่งออกแบบในคอนเซปส์ "อวกาศ" (Space) พร้อมเครื่องเล่นครบครัน สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ 3 สระพร้อมสไลเดอร์ อ่างจากุซซี่ (Jacuzzi) และ สระน้ำสำหรับเด็กแยกเฉพาะให้เด็กๆ เพื่อความปลอดภัยและได้เล่นสนุกชุ่มฉ่ำกับเครื่องเล่นโดนใจกันตลอดวัน สกายบริดจ์ (Sky Bridge) มุมสุดชิคสำหรับถ่ายภาพบนทางเดินกระจกยื่นไปในอากาศ รวมถึงพื้นที่สวนลอยฟ้าขนาดใหญ่สำหรับช่วงเวลาที่ดีสำหรับครอบครัว เพื่อนฝูงและคู่รัก ทางโรงแรมยังตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มประชุมสัมมนาด้วยพื้นที่ห้องประชุมขนาดใหญ่ 7 ห้อง ขนาดความจุกว่า 300 คนซึ่งห้องประชุมทุกห้องได้รับแสงธรรมชาติ มีทิวทัศน์ที่งดงาม ให้บรรยากาศการประชุมที่น่าพึงพอใจ และยังได้เตรียมพื้นที่สำหรับกิจกรรมสัมมนาและกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ อาทิ แอมฟิเธียเตอร์ (Amphitheatre) ลานกลางแจ้งที่สามารถรองรับกิจกรรมการประชุม ปาร์ตี้ส่วนตัวกับมุมซีฟู้ดบาร์บีคิว หรืองานสังสรรค์ได้ถึง 150 คน เป็นต้น รวมถึงการจิบชา กาแฟหรือเครื่องดื่มในยามสายหรือบ่าย ในบรรยากาศตะกร้าปิคนิคให้แขกผู้เข้าพักได้เลือกมุมจิบชาได้ตามความชอบ บนโต๊ะหรือบนสนามหญ้าชมวิวของท้องทะเล ในส่วนของร้านอาหาร ด้วยห้องอาหาร 2 ห้อง ทั้ง เวฟแอนด์วินด์ (Waves & Wind) สำหรับการบริการอาหารเช้าสุดพิเศษที่เน้นเสิร์ฟตามความต้องการของผู้เข้าพักและ All day dining ในบรรยากาศของสวนน้ำและสวนอันร่มรื่น เดอะสกาย 32 (The Sky32) ห้องอาหารซึ่งตั้งอยู่บนชั้นบนสุด ให้เห็นวิวทะเลอ่าวพัทยา และเมืองพัทยา 180 องศา ในยามพระอาทิตย์ตกดินตราบจนค่ำคืนที่เห็นแสงสีของพัทยาทั้งเมือง เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ใหม่ที่คุณจะได้สัมผัสเมืองพัทยาในมุมมองใหม่ และสวยงามที่สุด
สำหรับรายได้รวมเฉพาะกลุ่มโรงแรมในปี 2562 คาดการณ์ประมาณ 3 พันล้านบาท เพิ่มจากปี 2561 ประมาณ 20% และอัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีที่ 88% คาดว่ากลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ จะยังคงรักษาอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากภาพรวมธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมที่มีแนวโน้มการเติบโตดี ฐานลูกค้าหลักเป็นนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เกาหลี สิงคโปร์ และไต้หวัน พร้อมทั้งคาดว่าจะมีลูกค้าจากภูมิภาคอื่นเพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางและสหรัฐอเมริกา
ทั้งนี้ปัจจุบันกลุ่ม แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล ประกอบด้วย ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 อโศก และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ 4 แห่งได้แก่ ราชดำริ เพลินจิต เทอร์มินอล 21 และสุขุมวิท 55 รวมถึงศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยา และโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ พัทยา ที่จะมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการปลายเดือนตุลาคมนี้ โดยสัดส่วนรายได้ปัจจุบันโรงแรมยังมากกว่าศูนย์การค้าประมาณ 60:40 เนื่องจากศูนย์การค้ายังมีเพียงแห่งเดียวซึ่งได้นำเข้ากองทรัสต์แล้ว จึงมีรายได้เฉพาะจากการบริหารพื้นที่ขายแฟชั่นไอส์แลนด์ เดอะพรอมานาด และเทอร์มินอล21 โคราช ซึ่งปลายปีนี้จะมีการเปิดศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พัทยาและยังไม่นำเข้ากองทุน ซึ่งจะทำให้รายได้จากศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นเป็น 45% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขการเติบโตทางธุรกิจยังไม่ใช่เป้าหมายหลัก โดยเป้าหมายหลักที่แท้จริงคือการสร้างความยั่งยืนในระยะยาว ด้วยการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้สำเร็จ นางสุวรรณา กล่าวทิ้งท้าย