ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SPPT เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีเป้าหมายขยายการลงทุนเพิ่มเติมให้มีความต่อเนื่อง โดยมีแผนรุกธุรกิจอีคอมเมิร์ซซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในหลายแนวทาง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรร่วมทุน ถือเป็นแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ นอกจากนี้ ยังมีแผนเข้าซื้อกิจการเพิ่ม ซึ่งคาดว่าจะสรุปผลการลงทุนได้อย่างช้าไม่เกินปี2561
ปัจจุบันได้จัดตั้งบริษัทย่อย คือ บริษัท เอสพีพี อินเทลลิเจนซ์ ซึ่งดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้บริการแพลทฟอร์มด้านโลจิสติกส์ และ บริษัท เอสพีพี ฟินเทค จำกัด ดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ เพื่อให้บริการ แพลทฟอร์ม ด้าน FinTech รวมถึงเข้าซื้อกิจการ บริษัท เทอร์ราไบท์ เน็ท โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TERA ผู้ดำเนินธุรกิจวางระบบ และให้บริการด้านไอที ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว
"TERA จะเริ่มสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ทำให้แนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้มีโอกาสสูงที่จะพลิกกลับมาเป็นกำไร ส่วนเป้าหมายรายได้ทั้งปี 2561 ที่ 500 ล้านบาท โดยเบื้องต้นมั่นใจว่าสูงกว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ดังกล่าว"
ประธานกรรมการ กล่าวว่า ความคืบหน้าในการเข้าซื้อกิจการบริษัท เอ็น เอ็ม แอล จำกัด (NML) ผู้ดำเนินธุรกิจด้าน Logistics ของเนชั่นกรุ๊ปทั้งหมด และให้บริการขนส่งสินค้าภายในประเทศว่า ขั้นตอนการซื้อขายหุ้นสามัญใน NML จำนวน 5 ล้านหุ้น ได้ดำเนินการแล้วเสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2561 เป็นต้นไป
ทังนี้ผลประโยชน์ จากการซื้อกิจการของNML ในครั้งนี้ นอกจาก SPPT จะนำมาพัฒนาต่อยอดร่วมกับแพลทฟอร์มโลจิสติกส์ ("SKYFROG") ที่บริษัทฯ มีอยู่เพื่อเดินหน้ามุ่งสู่ธุรกิจ E-Logistics อย่างเต็มรูปแบบตาม แผนการดำเนินงานในอนาคตแล้ว บริษัทฯ ยังจะได้กำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ หลังการเข้าซื้อกิจการ NML ด้วย