กับการเดินทางมาถึงโคราช ได้รับการต้อนรับจากทาง โรงแรมแคนทารี โคราช ด้วยการแนะนำเชฟ Mr. ERIC HOLVECK Western Kitchen Chef มาเปิดเมนูเอาใจสาวๆ ร่วมทริป ไม่ว่าจะเป็น กุ้งผัดเนย, ซุปเห็ดทรัพเฟิล และอีกหลากหลายเมนู รวมถึงเครื่องดื่มหลายสีสัน พร้อมปิดท้ายด้วย กะลอจี้ หาทานยากที่นี่ ก่อนที่จะขอตัวพักผ่อนเก็บแรงไว้เรียนรู้วิถีชุมชนกันแต่เช้า
โปรแกรมแรกในวันที่สองเรามุ่งหน้าสู่ โฮมเสตย์บ้านคุณเพชร บ้านสี่เหลี่ยม อ. คง จ. นครราชสีมา ของอาจารย์เพชรดา ศรชัยไพศาล นายกสมาคมภาษาเพื่อการศึกษาอาชีพและธุรกิจนำเที่ยว (โคราช) ที่เป็นทั้งไกด์และอาจารย์สอนวัฒนธรรมพื้นถิ่นให้กับชุมชน โดยดึงเอกลักษณ์ความโดดเด่น และภูมิปัญญาท้องถิ่น ในด้านต่างๆ มาปรับพัฒนาให้เกิดการต่อยอดสู่การท่องเที่ยวนวัตวิถี ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชุมชนทั้ง 3 อำเภอได้อย่างน่าชื่นชม โดยอาจารย์เพชรลดา กล่าวว่า การที่โคราช ปลุกตัวเองโดยนำคุณค่าเอกลักษณ์พื้นถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับชุมชน อัตตาลักษณ์ในตัวตน ยิ่งทำให้เกิดความภาคภูมิใจของชุมชน และชาวบ้านได้เห็นความสำคัญและการมีส่วนร่วม ทำให้อาจารย์รู้สึกดีใจมาก และได้รับการตอบรับจากนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะเยอรมัน อย่าง สปาบ้านทุ่ง นักท่องเที่ยวที่มาพักโฮมเสตย์ในบ้านสี่เหลี่ยม กรรมวิธีตั้งแต่การทำลูกประคบโดยนำสมุนไพรไทย จนถึงได้เรียนรู้การทำสปาหน้า สปาตัว
ก่อนที่จะได้เรียนรู้สูตรเด็ดที่พัฒนาจากปลาร้าบอง มาเป็น สปาเก็ตตี้บองไฮโซ ซึ่งถือว่าเป็นเมนูเด็ดเรียกน้ำย่อย รวมถึงการนำผลิตภัณฑ์จากพื้นถิ่นอย่างเช่น ใบหม่อน ใบไชยา ใบยอ พร้อมเปิดสูตรลับ ทำเมนูพิเศษ ใบยออบชีส หากได้เข้าชิงรางวัลผลิตภัณฑ์อาหารพื้นถิ่น คณะกรรมการตัดสินคงให้ผ่านร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะนอกจากเป็นเมนูคุณภาพแล้วยังรวมผักอินทรีย์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ปลูกง่ายหาทานง่าย และยังมาผสมผสานจนเกิดเมนูใหม่ได้แซ่บถูกใจทั้งชาวต่างชาติและคนไทยเป็นแน่
หลังจาก อาจารย์เพชรดา นำคณะไปทานอาหารกลางวันกันที่บ้านห้วยทราย โดยได้รับการต้อนรับด้วยการรำเซิ้งโคราช และบายศรีผูกข้อไม้ข้อมือ ก่อนที่จะทานอาหารกลางสไตล์อีสานพื้นถิ่น เมื่อชาวบ้านยกพาข้าว หรือสำหรับอาหารมาวาง แต่ละเมนูน่าทานไปหมดและที่หมดเร็วที่สุดในพาข้าว เห็นจะเป็น ปลาร้าบองไฮโซ สูตรบ้านห้วยทราย ที่ร้บรองใครได้ชิมจะติดใจ เมื่ออิ่มกันแล้วก็พานำชมวัฒนธรรมหม่อนไหม ได้สัมผัสทุกกระบวนการทอผ้าไหม ตั้งแต่การปลูกหม่อน เลี้ยงไหม การสาวไหม การหมัดหมี่ และการทอผ้าไหมของชุมชนบ้านห้วยทราย พร้อมกับเรียนรู้และทำกิจกรรม DIY สบู่จากน้ำไหม และผงยาสีฟันสมุนไพร ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของชุมชน รวมถึงมีผลิตภัณฑ์มากมาย มาให้ได้ช้อป ทั้ง แจ่วบองปลาร้าไฮโซ ข้าวโพด แตงไทย ผ้าไหม สบู่น้ำไหม น้ำใบหม่อน การันตีว่าของมีคุณภาพ ทั้งยังถูกใจผู้รับและผู้ใช้อย่างแน่นอน
และยังได้นั่งรถอิแต็กเที่ยวชมหมู่บ้านห้วยทราย ก่อนจะเดินทางไปยัง อ.พิมาย เพื่อร่วมชมมินิไลท์แอนด์ซาวน์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์ความเจริญรุ่งเรือง เมื่อครั้งอดีตกาลของเมืองพิมายและอารยธรรมขอมโบราณ ปราสาทหินพิมาย รวมถึงความเป็นมาของชาวพิมาย และชาวเมืองโคราชได้เป็นอย่างดี จากนั้นก็พักผ่อนตามอัธยาศัย รุ่งเช้าออกเดินทางไปตลาดเช้าพิมาย เพื่อจัดเตรียมและซื้อหาของใส่บาตรณสะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนาบ้านเตย ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านเตย แม้จะเป็นชุมชนเล็กๆ แต่สัมผัสได้ถึงความร่วมมือร่วมใจ ช่วยเหลือ เกื้อกูลกัน ทั้งในการระดมทุนและช่วยกันสร้างสะพานไม้ไผ่แห่งนี้ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ในการมีส่วนร่วมอีกแห่งของชุมชนบ้านเตย
รวมถึงชุมชนบ้านปรางค์ ใน อ. คง ที่ชุมชนสร้างสรรค์ในการรวมพลังสร้างคุณค่าให้กับ ปราสาทปรางค์นคร และสร้างสะพานไม้เพื่อเป็นเอกลักษณ์ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีชุมชน ณ บารายสวรรค์ หน้าปราสาทปรางค์นคร ถือเป็นสะพานที่มีเพียงหนึ่งเดียว อาจารย์เพชรลดา ได้เล่าเรื่องที่มาในยุคสมัยของปราสาทปรางค์นครแล้วยิ่งฟังยิ่งตื่นเต้นว่า ปราสาทปรางค์นครมีอายุกว่า 1,000 ปี ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ ได้แผ่ขยายวัฒนธรรมขอมมาถึงที่นี่ และในวันที่ 23 กันยายนนี้ ถือเป็นวันดีในการเปิดทางของปราสาทปรางค์นครอีกด้วย โดยชุมชนจะมีการรำบายศรีและทำพิธีอันเป็นมงคลเพื่อเบิกชัยให้กับปราสาทปรางค์นครให้กับมามีชีวิตอีกครั้ง
ก่อนจะเดินทางกันต่อไปยัง อ.โนนสูง เพื่อเรียนรู้และทำกิจกรรม DIY อาทิ ขนมพื้นบ้านตาลเม็ด, ผัดหมี่โคราช และทำผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็น พวงกุญแจไม้ไผ่, หมวกไม้ไผ่สาน, กล่องไม้ไผ่สาน, รองเท้าไม้ไผ่สาน และขอบอกว่าขนมตาลเม็ด เป็นเมนูโบราณที่หาทานยาก ใครอยากทานต้องมาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง
จากนั้นจึงเดินทางไปตัวเมืองโคราชเพื่อรับประทานอาหารพื้นถิ่น ที่หาทานได้ยาก ณ ร้านโคราฑา ไม่ว่าจะเป็น ยำข้าวเหมือด อาหารท้องถิ่นโคราชแท้ๆ ที่พิถีพิถันในเรื่องของวัตถุดิบที่มีความหลากหลาย รวมถึงปลาป่น โดยใช้ปลาป่นชั้นดี จาก อ.ครบุรี มาปรุงรสให้ได้ลิ้มลองกัน ข้าวแผะ หรือภาษาโคราชเรียกว่า เข่าแพะ เป็นอาหารที่สืบทอดต่อๆ กันมา หากเปรียบกับอาหารปัจจุบันก็คือ ข้าวต้มทรงเครื่อง แต่จะแตกต่างตรงที่ข้าวแผะนั้น มีวิตามินจากผักพื้นบ้านต่างๆ ทั้งกะทิ ฟักทอง ข้าวโพด และอีกหลากหลายส่วนผสมมารวมกัน โดยไม่เน้นโปรตีนจากเนื้อสัตว์นั่นเอง) ผัดหมี่กระโทก (ใช้เส้นหมี่ตะคุ จาก อ.โชคชัย คุณลักษณะสำคัญคือ เส้นนุ่มเหนียวพอประมาณ นิยมปรุงด้วยเนื้อสัตว์คือ ไก่บ้าน แต่ปัจจุบันหาทานได้ยากขึ้น) อีกเมนูที่ต้องย้ำชื่อ กับเมนู ต้องลอง ต้องสั่ง คือเมนูเฉพาะของทางร้าน โคราฑะ ที่มี ปลาทูย่าง, คอหมูย่าง, ไส้กรอกอีสาน, หมูยอย่าง , แคปหมู และ ไก่สามอย่าง และน้ำพริกปลาร้า กับผักพื้นถิ่นแนม เป็นมื้อปิดท้ายโปรแกรม ก่อนจะเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ อย่างอิ่มสุข ทั้งได้เรียนรู้วัฒนธรรมพื้นถิ่น ได้ทานอิ่ม นอนหลับ ครั้งหน้าจะขอมาเที่ยวเรียนรู้วัฒนธรรมขอมโบราณ และโคราชเมืองป่าปราสาท อีกครั้งแบบลงลึกในรายละเอียด…ก็น่าสนใจ
ส่วนทริปหน้าจะชวนไปไหนติดตามได้ใน โพสต์พาเที่ยว : Ride Explorer ห้ามพลาด!
หรือติดตามได้ทาง http://www.ride-explorer.com/trip-travel/post-a-trip-lady-trip-koratlicious/