นายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPT ผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเชิงการแข่งขันแก่ภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมถึงการจำหน่ายอุปกรณ์และระบบควบคุมไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงให้บริการติดตั้งและก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อย กล่าวว่า สำหรับการแต่งตั้งทั้ง 2 ท่านเข้ามาดำรงตำแหน่งที่สำคัญในครั้งนี้ เป็นการปรับทัพเพื่อช่วยสานต่อความสำเร็จของ CPT ในฐานะการเป็นผู้นำผู้ให้บริการระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักรเพื่อเพิ่มความสามารถเชิงการแข่งขันให้กับภาคอุตสาหกรรมของประเทศ เนื่องจากผู้บริหารทั้ง 2 ท่านมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับบริษัทฯ มาอย่างยาวนานตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทฯ และมีความเข้าใจในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ ทั้งด้านการตลาดและมีความเชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรมในการผลักดันการเติบโตอย่างยั่นยืนให้แก่ CPT ได้ต่อไป
นอกจากนี้ ผู้บริหารทั้ง 2 ท่านยังมีความเข้าใจถึงความต้องการของลูกค้า และสามารถนำความรู้ ประสบการณ์ ในการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เป็นอย่างดีในกลุ่มลูกค้าทุกอุตสาหกรรมที่ใช้ระบบไฟฟ้ากำลังสำหรับควบคุมการทำงานของเครื่องจักร และกลุ่มงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยที่มีการเติบโตสูง รวมถึงมีเป้าหมายการทำตลาดเพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมในกลุ่มลูกค้าโรงงานน้ำตาล ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเปิดหีบผลผลิตอ้อยรอบใหม่ที่จะเริ่มในช่วงปลายปีนี้ และครอบคลุมไปถึงการขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย โดยเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพการดำเนินธุรกิจของ CPT จะสามารถนำเสนอสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPT กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ จะเดินหน้าเข้าร่วมประมูลงานจากลูกค้าอุตสาหกรรมที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่างานในมือที่รอรับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องและสร้างการเติบโตระยะยาว หลังก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ซึ่งเป็นฐานการผลิตตู้ไฟฟ้ามาตรฐานสูงแล้วเสร็จและจะเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ได้ภายในต้นปี 2562 ซึ่งจะทำให้ CPT เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อสามารถขยายฐานลูกค้ารายใหม่ๆ ให้มากขึ้น
ส่วนแผนงานขยายธุรกิจในต่างประเทศนั้น จะเร่งดำเนินการจัดตั้งสำนักงานขายในภูมิภาคอาเซียน ได้แก่ ประเทศเวียดนาม ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียให้แล้วเสร็จทันภายในปีนี้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตในระยะยาวที่ดีต่อไป และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต