นายณรงค์ เจียมใจบรรจงรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทได้ส่งมอบสัญญาฉบับปรับปรุงตามแนวทางสากลของ UNIDROIT หน่วยงานอิสระทางกฎหมายสากลอันดับ 1 ของโลก ที่มีความถูกต้อง เปิดเผย และเป็นธรรม แก่เกษตรกรในโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงสัตว์แก่เกษตรกรรายย่อย หรือคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ครบทั้ง 5,214 รายแล้ว ภายหลังจากที่ซีพีเอฟได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตรในระบบเกษตรพันธสัญญา และจัดทำหนังสือชี้ชวนตามหลักเกณฑ์ของ พรบ.ส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา พ.ศ.2560 ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นอกจากนี้ซีพีเอฟถือเป็นบริษัทแรกที่ทำประกันภัยความเสี่ยงให้แก่เกษตรกรในรูปแบบประกันรายได้ด้วย
"ปัจจุบันสัญญาของโครงการทั้งหมดได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัยและเป็นสากล ซึ่งเกษตรกรรายใหม่ที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่ปี 2561 จะได้รับสัญญาใหม่ในทันที จึงช่วยสร้างความมั่นใจแก่ทั้ง 2 ฝ่ายมากยิ่งขึ้น และบริษัทยังคงยึดมั่นนโยบายการสร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงแก่พี่น้องเกษตรกรดังที่ทำมาตลอด 41 ปี โดยถือเป็นหนึ่งในภารกิจความรับผิดชอบต่อสังคม ที่สำคัญยังมุ่งผลิตอาหารปลอดภัยตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ด้วยการเสริมสร้างศักยภาพเกษตรกรในโครงการ โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีและมาตรฐานการผลิตของบริษัท ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุน และเป็นต้นทางการอาหารปลอดภัยที่สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดสายการผลิต" นายณรงค์กล่าวและว่า
ขณะเดียวกัน บริษัทยังผลักดันให้เกิดการรวมกลุ่มของเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน โดยมีการจัดประชุมประจำเดือนเพื่อติดตามประสิทธิภาพการผลิต มีการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนข้อมูลที่น่าสนใจระหว่างกัน ทั้งการเลี้ยงสัตว์ เทคโนโลยี นวัตกรรม และวิชาการใหม่ๆ โดยในบางพื้นที่มีการจัดตั้งเป็นชมรมเกษตรกรคอนแทรคฟาร์มมิ่งซีพีเอฟ ขณะเดียวกันบริษัทได้คัดเลือกฟาร์มของเกษตรกรที่มีการจัดการมาตรฐานและประสิทธิภาพการผลิตดีเด่นให้เป็น "ศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรมืออาชีพ" เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และประสบการณ์แก่เพื่อนเกษตรกรเพื่อให้นำความรู้มาประยุกต์ใช้กับฟาร์มของตนเองต่อไป
ทั้งนี้ ปัจจุบันซีพีเอฟมีจำนวนเกษตรกรคอนแทรคฟาร์มมิ่งทั้งในรูปแบบการประกันรายได้ในโครงการฝากเลี้ยงและรูปแบบประกันราคารวม 5,214 ราย โดยในจำนวนนี้ 50% เป็นเกษตรกรที่ร่วมโครงการมาเป็นเวลามากกว่า 10 ปี และเป็นเกษตรกรรุ่นแรกๆ ที่ร่วมกันบุกเบิกโครงการมาตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งปัจจุบันได้ส่งมอบมรดกอาชีพสู่รุ่นลูกรุ่นหลานแล้ว