สยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ เผย “ผู้ปกครอง 66.54% ระบุการสอบเข้า ป.1 ทำให้เด็กเกิดความเครียดมากขึ้น”

ศุกร์ ๒๘ กันยายน ๒๐๑๘ ๑๔:๐๑
ศ. ดร.ศรีศักดิ์ จามรมาน ประธานกรรมการอาวุโสสำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม (STC) แถลงผลการสำรวจ "ความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้ปกครองต่อแนวคิดการยกเลิกการสอบเข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง" สำรวจระหว่างวันที่ 23 ถึง 27 กันยายน พ.ศ. 2561 จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 1,094 คน

ประเด็นเกี่ยวกับการศึกษาประเด็นหนึ่งที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถกเถียงกันในสังคมไทยคือการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันมีโรงเรียนหลายแห่งที่ยังคงใช้วิธีการจัดสอบแข่งขันเพื่อคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ทั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักในการจัดสอบคัดเลือกคือการคัดกรองนักเรียนที่มีความพร้อมมากที่สุดเข้ามาเรียน อีกทั้งยังเป็นการคัดเลือกนักเรียนที่มีทักษะการเรียนรู้และมีความรู้ความสามารถใกล้เคียงกันเข้ามาเรียนด้วยกัน ซึ่งผู้คนในสังคมส่วนหนึ่งก็เห็นด้วยกับการจัดสอบคัดเลือก

อย่างไรก็ตาม ผู้คนในสังคมอีกส่วนหนึ่งไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ผู้ปกครองตลอดจนนักวิชาการด้านการศึกษาและนักวิชาการเกี่ยวกับเด็กได้ออกมาเรียกร้องให้มีการยกเลิกการจัดสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง เพราะนอกจากจะเป็นการทำให้เด็กเกิดความเครียดจากการเตรียมตัวสอบทั้งการอ่านหนังสือและการเรียนพิเศษเพิ่มมากขึ้นจนอาจทำให้เด็กไม่มีเวลาทำกิจกรรมอื่นๆ ที่เหมาะสมกับวัย ซึ่งจะส่งผลเสียกับพัฒนาการด้านต่างๆรวมถึงผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ

การจัดสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งยังเป็นช่องทางให้โรงเรียนสามารถเรียกรับเงินแปะเจี๊ยะจากผู้ปกครองได้ และทำให้โรงเรียนอาจรับเด็กที่ไม่มีความพร้อมหรือไม่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาเรียนแทนที่จะได้นักเรียนที่มีคุณสมบัติและความพร้อมมากกว่า ซึ่งจะส่งผลกระทบกับคุณภาพมาตรฐานการศึกษาของประเทศในอนาคตได้ จากประเด็นดังกล่าว สำนักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตโพลล์จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของพ่อแม่ผู้ปกครองต่อแนวคิดการยกเลิกการสอบเข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ซึ่งได้ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 23 ถึง 27 กันยายน พ.ศ. 2561

จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดซึ่งเป็นเพศหญิงร้อยละ 51.92 และเพศชายร้อยละ 48.08 สามารถสรุปผลได้ดังนี้ ในด้านความคิดเห็นต่อการจัดให้มีการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง กลุ่มตัวอย่างมากกว่าสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 67.92 มีความคิดเห็นว่าการจัดให้มีการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะมีส่วนทำให้เด็กต้องใช้เวลาเรียนพิเศษมากเกินจำเป็น ขณะที่กลุ่มตัวอย่างประมาณสองในสามหรือคิดเป็นร้อยละ 66.54 มีความคิดเห็นว่าการจัดให้มีการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะส่งผลให้เด็กเกิดความเครียดมากเกินไป ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 70.48 มีความคิดเห็นว่าการจัดให้มีการสอบคัดเลือกเข้าเรียนต่อในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะส่งผลให้พ่อแม่ผู้ปกครองเกิดความกังวล/ความเครียดเกี่ยวกับสถานที่เรียนของบุตรหลานได้มากกว่าการไม่จัดให้มีการสอบเข้า

ในด้านความคิดเห็นต่อการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.52 มีความคิดเห็นว่าหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะมีส่วนช่วยให้เด็กมีการพัฒนาทักษะทางความคิดได้ดีขึ้นกว่าการจัดให้มีการสอบเข้า

ขณะเดียวกันกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 59.87 มีความคิดเห็นว่าหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะมีส่วนช่วยให้เด็กมีเวลาอยู่กับพ่อแม่ผู้ปกครองได้มากขึ้น ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 56.49 มีความคิดเห็นว่าหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสทางการศึกษาที่เท่าเทียมกัน นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 61.7 ระบุว่าตนเองไม่รู้สึกกังวลหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะส่งผลทำให้คุณภาพมาตรฐานทางการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาลดลงไป

อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 52.1 มีความคิดเห็นว่าหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะส่งผลให้โรงเรียนสามารถรับเด็กนักเรียนที่มีคุณสมบัติและมีความพร้อมเพียงพอได้อย่างมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการจัดให้มีการสอบเข้า ขณะที่กลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งหนึ่งซึ่งคิดเป็นร้อยละ 53.47 ยอมรับว่าตนเองรู้สึกกังวลหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะทำให้โรงเรียนต้องรับนักเรียนที่มีทักษะความรู้ความเข้าใจ/ความพร้อมทางด้านร่างกายและจิตใจที่แตกต่างกันเข้ามาเรียนร่วมกัน และกลุ่มตัวอย่างเกือบสามในสี่หรือคิดเป็นร้อยละ 74.86 มีความคิดเห็นว่าหากมีการยกเลิกการจัดสอบเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งจะไม่มีส่วนช่วยทำให้ปัญหาการเรียกรับเงินแป๊ะเจี๊ยะในโรงเรียนต่างๆ ลดลงไปได้

สำหรับความคิดเห็นต่อวิธีการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งนั้น กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่คิดเป็นร้อยละ 36.56 มีความคิดเห็นว่าโรงเรียนควรใช้วิธีการสอบสัมภาษณ์เพียงอย่างเดียวเพื่อคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนต่อชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่ง ขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 19.01 มีความคิดเห็นว่าควรใช้วิธีการสอบข้อเขียนเพียงอย่างเดียวเพื่อคัดเลือก ส่วนกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 10.15 ระบุว่าควรใช้ทั้งการสอบข้อเขียนและสอบสัมภาษณ์ โดยที่มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 20.93 ระบุว่าควรใช้วิธีการอื่นๆ (พิจารณาพื้นที่อาศัย พิจารณาความพร้อมของเด็กจากชั้นอนุบาล สัมภาษณ์ผู้ปกครอง) และกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 13.35 ระบุว่าควรรับเข้าเรียนโดยไม่มีการสอบใดใดเลย (อ่านข่าวต่อ https://bit.ly/2N6uZH5)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ