มร. ควอน พยอง โอ (Mr. Kwon, Pyung Oh) ประธานและซีอีโอสำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งประเทศสาธารณรัฐเกาหลีหรือ KOTRA กล่าวว่า ปีนี้นับเป็นปีที่สำคัญของทั้งเกาหลีและไทยเนื่องในวาระครบรอบ 60ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศนับตั้งแต่ประเทศไทยได้ส่งกองกำลังไปช่วยรบในสงครามเกาหลีเมื่อปี1950 ด้วยการเสียสละนับแต่นั้นทั้งสองประเทศก็เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันตลอดมาและในเดือนตุลาคม1958เกาหลีและไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกันอย่างเป็นทางการทำให้ทั้งสองประเทศได้เดินหน้าสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและพัฒนาจนเกิดเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ในปี2012
ทั้งนี้ ด้านเศรษฐกิจสาธารณรัฐเกาหลีถือเป็นหนึ่งในสิบคู่ค้าสำคัญของประเทศไทยจากปีที่ผ่านมาทั้งสองประเทศได้มีการแลกเปลี่ยนทางการค้ากว่า 12.7 พันล้านเหรียญสหรัฐและเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้เรายังคาดหวังว่าปริมาณการแลกเปลี่ยนทางการค้าจะมีมูลค่าสูงกว่า14 พันล้านเหรียญสหรัฐซึ่งจะสูงที่สุดเทียบจากปี 2011 ที่มีปริมาณการแลกเปลี่ยนถึง 13.9 พันล้านเหรียญสหรัฐเกาหลีถือเป็นนักลงทุนที่ใหญ่อันดับที่9ของประเทศไทยและนับเป็นอันดับที่สามของนักลงทุนต่างชาติในประชาคมอาเซียนรองจากเวียดนามและอินโดนีเซียนอกจากนี้การแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและบุคคลก็ยังมีมาอย่างต่อเนื่องโดยในปีที่ผ่านมาคนเกาหลีกว่า 1,710,000 คนเดินทางมาเยือนประเทศไทยซึ่งเรียกได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่เกาหลีนิยมมาเยือนมากที่สุดในขณะเดียวกันนั้นคนไทย 500,000คนก็เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐเกาหลีถือเป็นประเทศที่คนไทยไปเยือนมากที่สุดเป็นอันดับที่5 จากทุกประเทศทั่วโลก
ประธานและซีอีโอกล่าวอีกว่าปัจจุบันบริษัทเกาหลีกว่า 400 บริษัทได้ลงทุนในประเทศไทยในหลากหลายอุตสาหกรรมอาทิอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อุตสาหกรรมเหล็กกล้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์และโฮมชอปปิ้งจากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและบุคคลที่เพิ่มขึ้นกระแสเกาหลีหรือ Korean wave ก็แพร่กระจายในประเทศไทยและในทิศทางเดียวกันวัฒนธรรมไทยก็แผ่เข้าไปในเกาหลีซึ่งวัฒนธรรมและความเป็นไทยได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงโซลจากความสัมพันธ์ที่ยาวนานของทั้งสองประเทศสาธารณรัฐเกาหลีและไทยยังคงจะขยายการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกันต่อไปโดยรัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะต่อยอดธุรกิจอุตสาหกรรมไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 และพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคพิเศษภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0
โดยเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมารัฐบาลเกาหลีใต้ได้ริเริ่มนโยบายสู่ทางใต้โดยขยายความร่วมมือกับหลายประเทศในอาเซียนและผลจากความตึงเครียดในสมรภูมิการค้าสหรัฐ-จีนทำให้นักลงทุนเกาหลีสนใจประเทศในสมาคมอาเซียนมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการร่วมมือกันระหว่างเกาหลีและอาเซียนประกอบไปด้วย 3P ได้แก่ People-การเชื่อมต่อระหว่างบุคคลกับบุคคลใจและใจ Peace-การสร้างสันติภาพระหว่างอาเซียนโดยมีข้อตกลงร่วมกัน Prosperity-การยกระดับการเป็นอยู่ผ่านการร่วมมือทางเศรษฐกิจนอกจากนี้เกาหลียังสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าทางนวัตกรรม (Innovative Growth) โดยผลักดันแปดกุญแจสำคัญทางอุตสาหกรรมอัน ได้แก่ smart factory และsmart city ซึ่งจะเป็นการดีถ้าทั้งสองประเทศร่วมมือกันสร้างนโยบายความร่วมมือทางอุตสาหกรรมที่นำไปสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่4เพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศโดยนโยบายความร่วมมือนี้จะเป็นรากฐานสำคัญของการขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน
"ด้วยเหตุผลนี้ KOTRA สำนักงานพาณิชย์เกาหลีจึงได้จัดงาน Korea expo 2018, Bangkok เพื่อเป็นการขยายความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างเกาหลีและไทยรวมทั้งเฉลิมฉลอง60ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศในงานนี้มีบริษัทเกาหลี105บริษัทเข้าร่วมและจัดแสดงสินค้าจากหลากหลายอุตสาหกรรมเช่นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์สินค้าไอทีสินค้าอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ด้านความงามสินค้าอุปโภคบริโภคและอาหารบนพื้นที่ 5000 ตร.ม. ระหว่าง(วันนี้)3-5 ตุลาคม 2561 นี้เวลา 10.00-18.00 น. ณ อาคารแสดงสินค้าฮอลล์ 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าระหว่างเกาหลีและประเทศในกลุ่มประชาคมอาเซียนสาธารณรัฐเกาหลีและประเทศไทยต่างก็ผลักดันความร่วมมือทางเศรษฐกิจเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศทั้งจากสถานทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทยกระทรวงพาณิชย์สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น โดยคาดว่าการเจรจาธุรกิจครั้งนี้จะสร้างมูลค่ามากกว่า 140 ล้านดอลล่าร์ และมีผู้เข้าเยี่ยมชมงาน"Korea Expo 2018, BANGKOK" มากกว่า 15,000 ราย" มร.ควอน พยอง โอ กล่าว