นางสาวสุรัสวดี ซื่อวาจา กรรมการผู้จัดการบริษัท LPC กล่าวว่า หลังจากที่บริษัท ลุมพินี พร็อพเพอร์ตี้ เซอร์วิส แอนด์ แคร์ จำกัด ในเครือ แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ กรุ๊ป ได้รับการรับรองเป็นกิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise: SE) จากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์แล้ว เพื่อให้สอดคล้องกับพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 621) พ.ศ.2559 บริษัทจึงต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ระบุให้มีคำว่า "วิสาหกิจเพื่อสังคม" อยู่ในชื่อบริษัทด้วย บริษัทจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท แอล พี ซี วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด (LPC Social Enterprise Company Limited) โดยจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป
กรรมการผู้จัดการ LPC กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้วยจุดมุ่งหมายของบริษัท LPC ที่ต้องการจะสร้างรายได้ สร้างศักดิ์ศรี สร้างโอกาส และที่สำคัญคือการสร้างความสุขให้กับพนักงาน บริษัทจึงต้องให้ความใกล้ชิดกับพนักงาน เพื่อที่จะทราบถึงความเดือดร้อนและหาแนวทางในการช่วยเหลือและแก้ไขได้ "ปัญหาส่วนหนึ่งที่พบคือ การเป็นหนี้นอกระบบ บริษัทจึงมีโครงการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย และทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างพนักงานและเจ้าหนี้เพื่อช่วยประสานในการปลดหนี้ ควบคู่ไปกับการฝึกให้พนักงานทำบันทึกบัญชีครัวเรือน เพื่อจะได้ทราบรายรับ – รายจ่ายในแต่ละเดือน และสามารถวางแผนการใช้จ่ายได้อย่างเหมาะสม ในขณะเดียวกัน บริษัทยังมองถึงการสร้างภูมิคุ้มกันทางการเงินในอนาคต โดยหลังจากที่บริษัทช่วยปลดหนี้ให้กับพนักงานแล้ว หากพนักงานฝึกนิสัยการออมเงินในแต่ละเดือนได้ เงินส่วนนี้ก็สามารถใช้เป็นเงินเก็บไว้ช่วยเหลือในยามฉุกเฉินได้อีกด้วย ในปีนี้ บริษัทจึงได้ชักชวนให้พนักงานเข้าร่วมใน "โครงการรักการออม" โดยมีเงินเพียง 100 บาทพนักงานก็สามารถเข้าร่วมโครงการนี้ได้ และหลังจากที่พนักงานออมเงินครบ 12 เดือน บริษัทก็จะมีเงินสมทบให้ เป็นการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานออมเงินอีกทางหนึ่ง"
"เรามองว่า LPC เป็นเพียงฟันเฟืองเล็กๆ ตัวหนึ่งในสังคมที่ได้ช่วยเหลือให้ผู้ด้อยโอกาสได้มีงานทำ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงอยากสนับสนุนให้หลายๆ องค์กรลุกขึ้นมาเป็นกิจการเพื่อสังคมกันเยอะๆ ปัญหาสังคมที่มีอยู่จะได้ลดน้อยลงและช่วยให้สังคมไทยของเราแข็งแรงขึ้นในอนาคตอีกด้วย" กรรมการผู้จัดการ LPC กล่าวในตอนท้าย