ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า หนึ่งในภารกิจของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การเตรียมความพร้อมให้กับคนไทยในการก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 จึงต้องปรับเปลี่ยนเศรษฐกิจสังคมไทยด้วยการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรม (Innovation Driven Economy) ที่ทำให้เกิดสมดุลระหว่างมนุษย์และเทคโนโลยี พร้อมทั้งสร้างความมั่งคั่ง มั่นคงและยั่งยืนให้กับประเทศไทยตามนโยบาย Thailand 4.0 โดยกระทรวงวิทย์ฯ ได้มอบหมายให้สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ดำเนินยุทธศาสตร์การส่งเสริมนวัตกรรมเชิงพื้นที่เพื่อให้เกิดขั้วความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ภายใต้การสนับสนุนด้วยกลไกต่างๆ ที่ช่วยสร้างโอกาสและความได้เปรียบให้กับผู้ประกอบการไทยได้เติบโตอย่างเข้มแข็ง รวมถึงการนำแนวทางสานพลังประชารัฐ เชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในโครงการต่างๆ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อาทิ การพัฒนาย่านนวัตกรรมทั้งในกรุงเทพฯ และภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ
สำหรับความร่วมมือระหว่าง NIA และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในการเปิดตัว Bangkok CyberTech District ในครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวของความสำเร็จระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่รวมพลังกันเสริมศักยภาพให้ประเทศไทยสามารถก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยพื้นที่นี้จะต้องเป็นกลไกสำคัญในการสร้าง Game changing ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ พร้อมทั้งช่วยยกระดับขีดความสามารถของสตาร์ทอัพ, SMEs, Talent ต่างๆ ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมควบคู่กับการพัฒนาองค์ความรู้ที่จะช่วยนำพาประเทศไทยให้ก้าวสู่สังคมแห่งนวัตกรรม
ด้าน ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า Bangkok CyberTech District จะเป็นศูนย์กลางดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ เปลี่ยนพื้นที่ย่านปุณณวิถีให้มีระบบนิเวศสตาร์ทอัพที่ยิ่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยสร้างโอกาสและผลักดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้นำนวัตกรรมทางด้าน Digital, Robotics, Cloud ภายในปีนี้ ทั้งนี้ Bangkok CyberTech District จะใช้พื้นที่ True Digital Park เป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโดยศูนย์กลางเชื่อมโยงองค์ความรู้ ด้วยแนวคิด Open Innovation จากการรวมตัวกันของ
- ศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (One Stop Service) ของภาครัฐ ที่จะให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกในการให้บริการด้านธุรกิจแก่เหล่าสตาร์ทอัพ รวมทั้งสิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้ประกอบการต่างชาติ
- บริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ (Global Tech Giants) ที่มีองค์ความรู้และสามารถถ่ายเทให้กับนวัตกรชาวไทย
- Startup ผู้ประกอบการ ผู้มีความรู้ความสามารถ (Talent) จากทั้งในและต่างประเทศ ด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล เช่น Big Data Analytics, Artificial Intelligence (AI), Machine Learning, e-Commerce, Creative Content และ Gaming เป็นต้น
- นักลงทุนจากทั่วโลก (Investors and VCs) ที่มองหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพ
รวมทั้งการจัดตั้งศูนย์ Research & Developement (R&D) ของมหาวิทยาลัย และหน่วยงานภาครัฐ ที่จะทำให้เกิดการถ่ายเทและหลอมรวมองค์ความรู้ด้านดิจิทัล เสริมสร้างการคิดค้นและต่อยอดนวัตกรรม โดย NIA จะเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน มาร่วมดำเนินการพัฒนา Bangkok CyberTech District ให้เป็นพื้นที่แห่งโอกาสสำหรับสตาร์ทอัพทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งคาดว่าภายใน 3 ปีนี้จะมี Global Startup เกิดขึ้นภายในย่านไม่ต่ำกว่า 100 ราย และก่อให้เกิดรายได้ประมาณ 3,500 ล้านบาท
ดร.พันธุ์อาจ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ NIA ยังได้เข้ามาตั้งศูนย์บริการ Startup Thailand Center เพื่อรองรับการให้บริการแก่ผู้ประกอบการสตาร์ทอัพทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งศูนย์ดังกล่าวเกิดจากความร่วมมือระหว่าง NIA, BOI และกลุ่ม True ประกอบไปด้วยพื้นที่ Co-working space, Event space สำหรับสร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพผ่านกิจกรรมต่างๆ ซึ่งจะมีแผนดำเนินการตลอดทั้งปี รวมถึงมีพื้นที่สำหรับ Private office ให้แต่ละบริษัทมีพื้นที่ประกอบธุรกิจในราคาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการอำนวยความสะดวกในการจัดตั้งธุรกิจในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว เช่น ที่ปรึกษาด้านบริการ (Service Consultant) อาทิ Smart Visa การจดทะเบียนบริษัท หรือ DBD สิทธิประโยชน์จากการประกอบธุรกิจในสาขาเป้าหมาย ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (Legal Consultant) อาทิ กฎหมายทางธุรกิจ กฎหมายสินทรัพย์ทางปัญญา
รวมไปถึงยังมีกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นภายใน Startup Thailand Center อื่นๆ อีกเช่น การปลูกฝังบุคลคากรผู้มีความสามารถและความเชี่ยวชาญพิเศษ (Cultivate Talents) การต่อยอดธุรกิจนวัตกรรมระหว่าง Startup และบริษัทรายใหญ่ (Integrate Old and New Economy) การขับเคลื่อนการพัฒนาในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (Drive Industry Development)พร้อมด้วยการแลกเปลี่ยนสตาร์ทอัพจากต่างประเทศเข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย พร้อมทั้งเชื่อมต่อธุรกิจกับกลุ่มเครือข่ายบริษัทไทยอีกด้วย
ขณะที่ นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า กลุ่มทรู มุ่งมั่นพัฒนาโครงการทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ในครั้งนี้ เป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสร่วมพัฒนาย่านนวัตกรรมปุณณวิถี ให้สามารถยกระดับไปสู่ Bangkok CyberTech District ทำให้เห็นเป็นรูปธรรมถึงการใช้พื้นที่เป็นศูนย์กลางในการสร้างสรรค์นวัตกรรมดิจิทัล และส่งเสริมการเติบโตของเหล่าสตาร์ทอัพ ซึ่งเป็นนักรบทางเศรษฐกิจรุ่นใหม่ ที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทยให้เติบโตและมีศักยภาพแข่งขันกับนานาประเทศทั่วโลก
โดย ทรู ดิจิทัล พาร์ค มีศักยภาพที่จะสนับสนุนให้การพัฒนาย่านนวัตกรรม Bangkok CyberTech District มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น และจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทำให้เกิดเป็นระบบนิเวศสมบูรณ์แบบสำหรับเหล่าสตาร์ทอัพ ภายใต้แนวคิด Open Innovation มีทั้งบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ เหล่าสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นักลงทุน และหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งจะทำให้เกิดการถ่ายเทและหลอมรวมองค์ความรู้ด้านดิจิทัล ท่ามกลางบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม และรองรับการทำงานและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังพร้อมรองรับการจัดตั้งศูนย์บริการ Startup Thailand Center ขึ้นเป็นแห่งแรกของ NIAเพื่อให้สิทธิประโยชน์และอำนวยความสะดวกแก่เหล่าสตาร์ทอัพจากทั่วโลกที่เล็งเห็นโอกาสการลงทุนและดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ย่านนวัตกรรมแห่งนี้ เป็นแหล่งบ่มเพาะสตาร์ทอัพ ที่จะดึงดูดคนเก่งที่มีความรู้ความสามารถจากทั่วโลก และเป็นศูนย์กลางการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลได้อย่างครบวงจรตามเจตนารมณ์ของ NIA
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โทรศัพท์ 02-0175555 เว็บไซต์ http://www.nia.or.th