KTAMจ่ายปันผลKT-PIFอัตรา0.30บาทต่อหน่วย เดินหน้าขายตราสารหนี้ตปท.1ปีชูผลตอบแทน1.80%

พฤหัส ๑๑ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๓๐
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนเปิดกรุงไทย พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล ( KT-PIF-D ) อัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ในวันที่ 16 ตุลาคม 2561 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 - 30 เมษายน 2562 จากผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 สิงหาคม 2561

กองทุนมีนโยบายลงทุนในหลักทรัพย์และทรัพย์สินทั้งในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ และ/หรือโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉลี่ยในรอบบัญชี ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม โดยกองทุนจัดตั้งในเดือนกรกฎาคม 2559 มีการจ่ายเงินปันผลแล้วทั้งสิ้น 6 ครั้ง รวมเป็นเงินจำนวน 1.00 บาทต่อหน่วย

สำหรับผลการดำเนินงานย้อนหลัง ณ วันที่ 28 กันยายน 2561 YTD (3ม.ค.-28ก.ย.61) อยู่ที่ 9.71% 6 เดือนอยู่ที่ 7.32% และ1 ปี อยู่ที่ 13.44% สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน( Benchmark ) YTD อยู่ที่ 4.71% 6 เดือนอยู่ที่ 6.82% และ1 ปี อยู่ที่ 7.41%

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 204( KTFF204) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 16 ตุลาคม 2561 อายุโครงการ 12 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ซึ่งประกอบไปด้วย เงินฝากประจำของAgricultural Bank of China , Bank of China , China Construction Bank Asia , AL Khalij Commercial Bank , Commercial Bank PQSC บัตรเงินฝาก Industrial and Commercial Bank of China , China Merchanyts Bank , และ MTN ของMashreq Bank โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.80% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย

แนวโน้มอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุตามการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอัตราผลตอบแทน US Treasury โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 15,370 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1 bps. มาอยู่ที่ 1.96% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 bps.มาอยู่ที่ 2.41% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps. มาอยู่ที่ 2.87% ต่อปี

ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกช่วงอายุแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ตามแรงขายหลังอัตราการว่างงานเดือนกันยายนอยู่ในระดับ 3.7% ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1969 ในขณะที่ก่อนหน้านั้นประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายหลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่แข็งแกร่งเกินคาด การเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อ รวมถึงการที่ตลาดคลายความกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับแคนาดา โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 bps. มาอยู่ที่ 2.88% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13 bps. มาอยู่ที่ 3.07% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18 bps. มาอยู่ที่ 3.23% ต่อปี

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๑:๔๙ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) รับรางวัล IAA Best Analyst Awards 2024 ยอดเยี่ยมกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี
๑๖:๐๐ NCP ผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายปันผล 0.068บ./หุ้น
๑๖:๐๐ AJA จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เปิดแผนรุกตลาดสินค้าคุณภาพ เดินหน้าขยายฐาน AJ EV Bike พร้อมต่อยอดธุรกิจดิจิทัล
๑๖:๐๐ NL จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๖:๐๐ RBF ผู้ถือหุ้นไฟเขียว อนุมัติปันผล 0.175บ./หุ้น
๑๕:๐๐ CMO ชำระหุ้นกู้ ตามกำหนด ลุยธุรกิจเต็มสูบ รับปี 68 ปีทองอีเวนต์
๑๘:๐๐ ฮีโน่เปิดตัวรถบรรทุก HINO EURO 5 พร้อมโซลูชันครบวงจรภายใต้แนวคิด Always Your Professionals ตอบสนองความสำเร็จของธุรกิจคุณ
๑๗:๐๐ ผถห. PMC ไฟเขียวปันผลเป็นหุ้น 38 : 1 Record Date 7 พ.ค. 68
๑๖:๐๐ TBN จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ - เคาะจ่ายปันผล 0.19 บ./หุ้น
๑๖:๐๐ BC จัดงานประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เตรียมจ่ายปันผล 0.0520 บาท/หุ้น 27 พ.ค.นี้ พร้อม แจก Warrant 3 และ 4 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมราคาใช้สิทธิ 1.50 บาท/หุ้น และ 2.50 บาท/หุ้น