ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) จึงได้ริเริ่มกิจกรรม 'เติมใจสร้างอนาคต กับทักษะชีวิตดีดี" ที่โรงเรียนพระดาบส ภายใต้แนวคิด Keep the Good Going โดยสอนทักษะวิชาเพิ่มเติมอีก 7 ทักษะได้แก่ ทักษะการออมเงินและการลงทุนเบื้องต้น (Saving & Investment for Life) ทักษะภาษาอังกฤษกับชีวิตประจำวัน (English for Life) ทักษะการถ่ายภาพจากมุมมอง (Photography for Life) ทักษะการสร้างแบรนด์ (Branding for Life) ทักษะการใช้สื่อดิจิทัลเพื่อการตลาด (Digital for Life) ทักษะการป้องกันตัว (Martial Arts for Life) รวมถึงการสร้างแรงบันดาลใจผ่านดนตรี (Music for Life) โดยในแต่ละวิชาได้ผู้มีความรู้และเป็นที่รู้จักมาร่วมเป็นจิตอาสาถ่ายทอดและแบ่งปันความรู้ให้กับน้องๆพระดาบส
โอภาส เร่งผลดี หรือ โอ นักเรียนโรงเรียนพระดาบส เล่าว่า "ที่เรียนมาชอบทุกอย่าง เพราะสามารถนำไปใช้ในอนาคตได้ อย่างเรื่องถ่ายรูป คนว่าไร้สาระ แต่จริงๆแล้วสามารถใช้โปรโมทสินค้าในอนาคตได เรื่องภาษา ก็ไปใช้กับการสื่อสารกับลูกค้าชาวต่างชาติ เพราะเทคนิคการสอนทำให้เราเข้าใจมากขึ้น นอกจากความรู้ที่เราได้รับ เรายังได้อย่างอื่นด้วย อย่างวิชาดนตรี พี่ที่เป็นนักร้องมาสอนว่าชีวิตผ่านอุปสรรคอะไรบ้าง เราได้รับรู้และได้เอามาเป็นกำลังใจให้กับตัวเองว่ากว่าจะไปถึงจุดนึงต้องผ่านอะไรบ้าง"
"สิ่งที่ได้รับจากโครงการนี้ จะเอาไปพัฒนาตนเองได้เยอะ สมมุติในอนาคตผมเป็นนายช่าง ก็ต้องสื่อสารกับลูกค้าที่เป็นต่างประเทศ และ การถ่ายรูปเป็นคำโฆษณาที่ไม่ต้องใช้ปากพูด อะไหล่ ชิ้นส่วนรถยนต์ ขอขอบคุณทาง ยูโอบี ที่จัดกิจกรรม และอยากให้มีทุกปีเพราะในเมื่อผมได้โอกาสนี้ ผมก็อยากส่งต่อโอกาสนี้ให้รุ่นน้องเรื่อยๆ"
คริสโตเฟอร์ ไรท์ วิทยากรอาสาวิชาภาษาอังกฤษ กล่าวว่า ครูที่ดี ไม่ใช่สอนวิชาอย่างเดียวแต่ต้องเปลี่ยนสังคม โดยการไปเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำของคน การมาสอนน้องๆ ในโรงเรียนพระดาบสจะทำให้ได้รับความรู้ ความบันเทิงผ่านสื่อการสอน อย่างเกม กิจกรรมต่างๆ และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ ทำให้คนลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง
อรวรรณ ดิษฐโยธิน นักโฆษณาผู้มีประสบการณ์การสร้างแบรนด์ให้กับองค์กรต่างๆ ได้มาแบ่งปันความรู้และประสบการณ์การทำงานในการสร้างแบรนด์ สร้างอัตลักษณ์เพื่อให้คนจดจำให้กับน้องๆ
"ในวันนี้ที่ได้โอกาสมาสอนน้องเรื่องแบรนด์ เรามุ่งหวังให้น้องนำสิ่งที่ได้เรียนไปใช้จริง ในวันนึงที่พวกเขาต้องนำไปใช้ เขาจะฉุกคิดและสามารถต่อยอดได้ เรารู้สึกว่าถ้าเราได้ใช้ประสบการณ์ความรู้ที่มีเป็นประโยชน์ให้กับคนอื่น โดยเฉพาะน้องๆ ที่อาจจะมีต้นทุนทางสังคมน้อยกว่าคนอื่น เพราะเราเชื่อว่าสังคมประเทศชาติจะดีได้ ต้องเริ่มจากคน ถ้าเรามีโอกาสจะปลูกฝังสิ่งดีให้คนอื่น จงทำ ผลตอบแทนคือความอิ่มเอมใจ ถ้าทุกคนคิดว่ามีโอกาสให้ จงให้ เรามีโอกาสให้ความรู้ ความคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ในชีวิต การให้ไม่จำเป็นต้องยิ่งใหญ่ แต่ให้อะไรที่เราลงไปทำสร้างความยั่งยืนกว่า ดังเช่นคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่สอนวิธีตกปลา มากกว่าจะให้ปลา"
ไม่ได้มีเพียงวิทยากรอาสาจากภายนอกธนาคารยูโอบีเท่านั้น จิตอาสายูโอบีก็ต้องการเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อแบ่งปันสิ่งดีๆ ในกิจกรรมครั้งนี้เช่นกัน
อรวรรณ รัตนวารินทร์ชัย หนึ่งในจิตอาสายูโอบี เล่าว่า "วันนี้ที่ได้มาร่วมเป็นอาสาในห้องเรียนทักษะการสร้างแบรนด์ รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์อีกรูปแบบที่เด็กๆ ไม่สามารถหาได้จากห้องเรียนปกติ แต่เป็นการแบ่งปันจากวิทยากรจากภายนอกผู้มีความเชี่ยวชาญด้านนั้นๆ นับเป็นการเปิดโลกให้กับน้องๆ ให้มาเจอโลกของผู้ใหญ่ เรียนรู้จากประสบกาณณ์จริงๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้ คิดว่าเด็กๆ น่าจะได้ประโยชน์และนำไปปรับใช้ได้จากรูปแบบกิจกรรมที่สนุกสนาน"
ปิดท้ายด้วย ธีระชัย แสงศิริ หรือ ไฟท์ นักเรียนโรงเรียนพระดาบส กล่าวว่า "ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมกิจกรรมเติมใจสร้างอนาคต กับทักษะชีวิตดีดีของยูโอบี ซึ่งได้เลือกเข้ากิจกรรม การออมและการลงทุน เพราะครอบครัวมีการเลี้ยงประมง เลี้ยงปลา และยังขาดความรู้เกี่ยวกับการลงทุน การแก้ปัญหา การบริหารการจัดการต่างๆ เมื่อได้เรียนรู้เพิ่มเติม ทำให้รู้จักการประเมินสถานการณ์ การวางแผน การจัดการปัญหาเบื้องต้นว่าต้องดำเนินการอย่างไร ต้องปรึกษาใคร และได้นำองค์ความรู้เหล่านี้ไปบอกต่อแก่ครอบครัว เพื่อนำไปปรับใช้ให้เหมาะสม"
กิจกรรมยูโอบีครั้งนี้ ไฟท์ มองว่ามีประโยชน์ช่วยเสริมสร้างช่องว่างที่เด็กๆ ขาดไป ได้รับประสบการณ์ โดยเฉพาะทักษะชีวิต อีกทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดี อยากให้มีกิจกรรมดีๆ แบบนี้ต่อเนื่องไปถึงรุ่นน้อง อยากให้เด็กรุ่นหลังได้ความรู้ และประสบการณ์แบบนี้เพื่อนำไปปรับใช้
กิจกรรม "เติมใจสร้างอนาคต กับทักษะชีวิตดีดี" เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ ยูโอบี ฮาร์ทบีท (UOB Heartbeat) โครงการความรับผิดชอบต่อสังคมของกลุ่มธนาคารยูโอบี โดยมุ่งเน้นใน 3 ด้านคือ ศิลปะ (Art) การศึกษา (Education) และ เยาวชน (Children) ซึ่งยูโอบีให้การสนับสนุนสามด้านนี้ มาเป็นระยะเวลายาวนาน เพราะเราเชื่อมั่นว่า สามสิ่งนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อความสำเร็จและการเติบโตของประเทศ รวมถึงด้านเศรษฐกิจและสังคม