นายทัศไนย เหมือนเสน ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ จ๊อบบีเคเค ดอทคอม บริษัท จัดหางาน จ๊อบบีเคเค ดอท คอม จำกัด ผู้ให้บริการ E-JOB แฟลตฟอร์ม www.jobbkk.com เว็บไซต์ หางาน สมัครงาน ยอดนิยมอันดับ 1 ของประเทศไทย กล่าวว่า ทางธนาคารโลกได้ทำนายว่า "เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มีแนวโน้มเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในปี 2573 หรือในอีก 12 ปีข้างหน้า ทำให้ภาคธุรกิจหันมาสนใจการนำ AI มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจของตนให้เกิดประโยชน์ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดแรงงานในอนาคต เกิดการว่างงาน ตกงานของเด็กไทย บัญฑิตจบใหม่ถึง 72%" ทั้งนี้เพื่อตอบสนองความต้องการแรงงานในอนาคต ทาง JOBBKK.COM จึงได้ร่วมกับทางจังหวัดขอนแก่น สำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น สภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น หรือเทคนิคไทย-เยอรมัน ร่วมจัดกิจกรรมนัดพบแรงงาน ครั้งยิ่งใหญ่ โดยใช้ชื่องานว่า "ดิจิทัล จ๊อบแฟร์ 2018" ภายใต้โครงการ JOBBKK งานทั่วไทย ไปทุกภาค โดยเน้นผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรม และกลุ่มดิจิทัล ที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพื่อรองรับและพัฒนาผู้หางานทำยุค 4.0 ในที่กำลังจะเกิดผลกระทบจาก AI ให้มีการปรับตัวและพัฒนาฝีมือให้มีประสิทธิภาพ
สำหรับในปี 2561 มีบัณฑิตจบการศึกษากว่า 4 แสนอัตรา ในจำนวนนี้มีคนตกงานกว่า 1.6 - 1.8 แสนอัตรา หรือคิดเป็น 40% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก ทาง JOBBKK.COM เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยแก้ไขปัญหานี้ โดยเข้าไปให้คำปรึกษาในสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 – 4 เพื่อดูว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้นบ้าง และจากการเข้าไปร่วมบรรยายไม่น้อยกว่า 289 ครั้ง พบว่า นักศึกษาชั้นปีที่ 1 "ยังหาตัวเองไม่เจอและไม่มีเป้าหมายในชีวิต" ที่แท้จริงก่อนที่จะเข้าสู่ระดับอุดมศึกษา นักศึกษาที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ตอบไม่ได้ว่า เมื่อเรียนจบแล้วต้องการทำงานอะไร
ขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค 4.0 จากการเก็บสถิติของทั้งสำนักงานสถิติแห่งชาติ และ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) พบว่าตลาดแรงงานในปัจจุบันต้องการบุคลากรด้านไอทีมาขับเคลื่อนธุรกิจ ในลักษณะผู้สร้างนวัตกรรม หรือในฐานะผู้คิดค้นหรือผู้พัฒนามากกว่าเป็นผู้ใช้งานทางด้านไอที ข้อมูลจากภาคธุรกิจในปัจจุบันมีแรงงานมีผู้ทำงานทางด้านไอทีประมาณปีละ 3.6 แสนอัตรา ซึ่งในแต่ละปีภาคธุรกิจ มีความต้องการแรงงานทางด้านไอทีปีละประมาณ 20,000 อัตรา ขณะที่สถาบันการศึกษาผลิตได้ 1.9 หมื่นอัตรา ซึ่งหากประเมินจากตัวเลขภาคผู้ประกอบการน่าจะรับได้หมด แต่พบว่าเป็นว่าบัณฑิตที่จบออกมากว่า 44% เป็นคอมพิวเตอร์เพื่อธุรกิจ คือเป็นผู้ใช้งาน ไม่ใช่ผู้คิดค้นหรือผู้สร้างนวตกรรม จากข้อมูลกลับพบว่าบัณฑิตที่จบมาในส่วนที่เป็นผู้คิดค้น ผู้สร้าง และพัฒนานวตกรรมมีเพียง 9% เท่านั้น ปัจจุบันภาคธุรกิจต้องการแรงงานด้านดิจิทัลเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างมาก เพราะขณะนี้เกิดการดิสรัปชั่นเทคโนโลยีในองค์กรธุรกิจสูงขึ้นทุกวันและองค์ความรู้บางอย่างยังล้าสมัย
อีกทั้งหลักสูตรที่สอนกันอยู่ในปัจจุบันกว่าจะปรับปรุงต้องใช้เวลา 4-5 ปี ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ทันสถานการณ์ ขณะที่ทั่วโลก ทั้ง ACM และ IEEE ได้อัพเดทหลักสูตรด้านดิจิทัลไปแล้วในปี 2560 แต่เรายังคงใช้มาตรฐานหลักสูตรตั้งแต่ปี 2552 อยู่ รวมทั้งความต้องการทาง นักการตลาดดิจิทัล, Data scientist, Data Analytics, Machine Learning และ AI เพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แต่สถาบันการศึกษามีหลักสูตรเหล่านี้ในการผลิตนักศึกษาออกมาน้อยมาก
ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวภายหลังงานแถลงข่าว "ดิจิทัล จ๊อบแฟร์ 2018" ว่า จากการสำรวจประชากรทางภาคอีสานในช่วงระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีความสนใจและมีความพร้อมในการเตรียมตัวที่จะก้าวสู่ตลาดแรงงาน นอกจากนี้ยังมีแรงงานนอกพื้นที่จำนวนไม่น้อยที่ต้องการเข้ามาทำงานในพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะขอนแก่น เนื่องจากเป็นเมืองขนาดใหญ่ ที่พร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน และตลาดเศรษฐกิจของนักลงทุน อีกทั้งปัจจุบันขอนแก่นก้าวเข้าสู่ Smart City ถือเป็นศูนย์กลางความสะดวกด้านต่าง ๆ ทั้งด้านระบบขนส่งมวลชนที่มีความพร้อมและทันสมัย ดังนั้นการพัฒนาด้านแรงงานให้ตรงกับความต้องการของตลาดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ
ขณะที่ประเทศไทยเป็นจุดยุทธศาสตร์ของกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ในด้านการผลิต การค้า การส่งออกและการขนส่ง ทั้งยังอยู่กึ่งกลางระหว่างประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ประเทศไทยจึงเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของการลงทุนในอาเซียน และรองรับการเคลื่อนย้ายของแรงงานสู่เมืองที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
นายไชยปราการ พึ่งไท จัดหางานจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า งานนัดพบแรงงานครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 2 ที่จัดยิ่งใหญ่ โดยความร่วมมือระหว่างสำนักงานจัดหางานจังหวัดขอนแก่น และเว็บไซต์ จ๊อบบีเคเค ดอทคอม เพื่อผสานความร่วมมือ ตอบสนองนโยบายประชารัฐในการสร้างงานสร้างอาชีพในจังหวัดขอนแก่น รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งงานดังกล่าวจะช่วยเปิดวิสัยทัศน์ให้กับผู้สมัครงาน สร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้แก่นักศึกษา สถาบันการศึกษา ให้ทราบถึงความต้องการของผู้ประกอบการในปัจจุบัน เป็นการช่วยให้ผู้สมัครงานได้เกิดการพัฒนาตนเองให้ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานและผู้ประกอบการ โดยคาดว่าจะมีผู้มาร่วมงานในครั้งนี้มากกว่า 5,000 คน
ผศ.วิชยุทธ จันทะรี รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ประจำวิทยาเขตขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น (เทคนิคไทย-เยอรมัน) ได้มีการปรับเปลี่ยนหลักสูตร เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางด้านตลาดแรงงานในอนาคต ทั้งทางด้านการศึกษาและการปรับตัวเข้าสู่ตลาดแรงงาน และเพื่อส่งต่อให้กับสถานประกอบการอย่างมีคุณภาพ โดยในงานมีการเปิดบูธนิทรรศการ โชว์ผลงานของนิสิต นักศึกษา ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดเทคโนโลยีแห่งอนาคต มาจัดแสดงภายในงานเพื่อให้ผู้ประกอบการและผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาเรียนรู้กระบวนการผลิตบุคลากร ให้ตรงตามความต้องการของสถานประกอบการในอนาคต
นายทรงศักดิ์ ทองไทย ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า จากการที่ขอนแก่นก้าวเข้าสู่ Smart City มีความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้เมืองพัฒนาอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยทางสภาอุตสาหกรรมจังหวัดขอนแก่น ผลักดันภาคอุตสาหกรรมให้มีการลงทุน การขยายตัวในพื้นที่เพื่อให้เกิดเป็น Smart City อย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบขนส่งมวลชน รองรับการขยายตัวของเมืองและแรงงานที่เข้ามาทำงานในจังหวัดขอนแก่น
คุณจิรดา พูลสวัสดิ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ยินดีเป็นอย่างยิ่งและดีใจมาก ที่เห็นจังหวัดขอนแก่นได้ก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 เต็มตัว ทางประชาสัมพันธ์จังหวัดขอนแก่น พร้อมเป็นสื่อกลางในการประชาสัมพันธ์งานนัดพบแรงงานครั้งนี้ อย่างเต็มที่
นายทัศไนย เหมือนเสน กล่าวทิ้งท้ายว่า งาน "ดิจิทัล จ๊อบแฟร์ 2018" เป็นงานนัดพบแรงงานที่มากกว่าการมาหางานทำ โดยภายในงานทางผู้ประกอบการจะนำเทคโนโลยีมาจัดแสดงแต่ละบูธเพื่อให้ผู้หางานทำ ตระหนักถึงการได้ทำงาน และเห็นถึงความสำคัญของการมีงานทำ โดยได้รับความร่วมมือจากบริษัทชั้นนำ อาทิ บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) เปิดบูธนิทรรศการโชว์ผลงานเทคโนโลยีจากโรงงานในกระบวนการผลิต และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น จัดแสดงโชว์นวัตกรรมเทคโนโลยี
นอกเหนือจากการรับสมัครงานแล้วภายในงานผู้สมัครงานจะได้พบกับนวัตกรรมเทคโนโลยีของการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัลหลากหลายบริษัทชั้นนำนำมาแสดงภายในวันนั้น "ดิจิทัล จ๊อบแฟร์ 2018" มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26-27 ตุลาคม 2561 ณ ฮอล์ล 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น จ.ขอนแก่น ผู้สมัครงานที่เข้าร่วมรับสมัครงาน สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อสร้างโอกาสได้งานทำได้ที่ https://jobbkk.com/go/h235o ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป จนถึงวันที่ 27 ตุลาคม 2561