ความยิ่งใหญ่เริ่มตั้งแต่การเนรมิตโถงต้อนรับบริเวณช้างทองคำสองพ่อลูกให้กลายเป็นฉากในตำนานของวรรณคดีไทย เพื่อเป็นนิทรรศการบอกเล่าความเป็นมาของสยามเจมส์ เฮอริเทจ ตลอด 56ปี ภายใต้แนวคิดร่วมสมัย โดยจำลองความยิ่งใหญ่ตระการตาของสระอโนดาต ซึ่งเป็นสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ถูกแสงส่องให้ร้อน และไม่มีวันเหือดแห้งจนกว่าจะสิ้นมหากัลป์ และเขาพระสุเมรุที่อยู่ในป่าหิมพานต์ โดยได้สอดแทรกประวัติความเป็นมาของสยามเจมส์ เฮอริเทจ ไว้ในนิทรรศการอย่างกลมกลืน
คุณปานชนก จิตชินะกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโสด้านปฏิบัติการ สยามเจมส์ เฮอริเทจ กล่าวว่า "ตลอดระยะเวลา 56 ปี สยามเจมส์ เฮอริเทจ ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและพันธมิตรทางธุรกิจเป็นอย่างดี โดยสยามเจมส์ เฮอริเทจ เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจเครื่องประดับอัญมณีของประเทศไทยในยุคแรก ๆ ที่รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวนานาชาติมาอย่างยาวนาน จึงทำให้เกิดการพัฒนาจากการเป็นผู้จำหน่ายเครื่องประดับอัญมณีสู่การเป็นผู้มอบประสบการณ์ประทับใจให้นักท่องเที่ยวได้รับความรู้ความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับอัญมณีจากทั่วโลก ผ่านพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเรามุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนภาครัฐ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมเครื่องประดับอัญมณีและการท่องเที่ยวของไทยให้มีคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล"
ภายในงานยังมีการเสวนาในหัวข้อ "สยามเจมส์ เฮอริเทจ 56 ปี บนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนผ่านจากผู้จำหน่ายอัญมณีสู่ผู้มอบประสบการณ์ประทับใจ" โดยได้รับเกียรติจากคุณพรหมเมธ นาถมทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คุณเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) และคุณนิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ ปี 2018 มาร่วมพูดคุยและแบ่งปันประสบการณ์ให้กับแขกผู้มีเกียรติ คุณพรหมเมธ นาถมทอง รองผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้กล่าวว่า ธุรกิจอัญมณีมีความสำคัญกับประเทศไทยเป็นอย่างมากทั้งในภาคธุรกิจและภาคการท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับคุณค่าและความภูมิใจในความสามารถของช่างฝีมือไทย ซึ่งสยามเจมส์ เฮอริเทจ ถือเป็นหนึ่งในผู้ประกอบการที่มีความคิดริเริ่มสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เข้าชม ได้ตระหนักถึงคุณค่า ที่มา และกระบวนการผลิต ไม่ใช่แค่การขายอัญมณีเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป คุณเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) ยังได้เสริมเพิ่มเติมว่าความโดดเด่นและท้าทายของสยามเจมส์ เฮอริเทจคือการสร้างประสบการณ์เพื่อบอกเล่าที่มาสินค้าและบริการผ่านความเป็นไทย ให้เกิดความประทับใจน่าเชื่อถือ ขณะที่คุณนิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 ในฐานะตัวแทนของคนรุ่นใหม่ กล่าวว่า พิพิธภัณฑ์คือเครื่องสะท้อนประวัติศาสตร์ ความเป็นมา วัฒนธรรมของคนไทยตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ที่สามารถต่อยอดทางความคิดและสร้างประสบการณ์การจดจำให้กับผู้ที่เข้าชมได้ดีที่สุด
และไฮไลท์ของงานที่ทุกคนรอคอยคือ การเปิดตัวเครื่องประดับชิ้นมาสเตอร์พีซ Heavenly Bird of Siam เพื่อฉลองความสำเร็จกว่าครึ่งศตวรรษของ สยามเจมส์ เฮอริเทจ ซึ่งได้แรงบันดาลใจในการออกแบบจากตำนานของนกฟีนิกซ์ ตามความเชื่อโบราณว่าเป็นนกศักดิ์สิทธิ์และสวยงามอีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอมตะ โดยได้รับเกียรติจาก นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 เป็นผู้สวมใส่พรีเซนต์ความงดงามของสร้อยคอทับทิมน้ำงามประดับด้วยเพชร โดยจี้รูปนกสามารถถอดแยกออกมาเป็นเข็มกลัดได้ ตัวเรือนทองคำ 18K ฝังทับทิมเม็ดกลาง 1 เม็ดขนาด 10.03 กะรัต และประดับไปด้วยทับทิมบริวารกว่า 200 เม็ด รวม 28.6 กะรัต รายล้อมด้วยเพชร รวม 9.26 กะรัต มูลค่า 38.8 ล้านบาท เพื่อส่งมอบความประทับใจและคำอวยพรที่ผู้ครอบครองจะก้าวไปสู่อนาคตที่รุ่งเรืองสืบไป
ทั้งนี้ สยามเจมส์ เฮอริเทจ ยังได้จัดกิจกรรมพิเศษ "Grand Lucky Dip" กิจกรรม 56 ปี 56 วัน เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุนการเติบโตมาจนถึง 56 ปี โดยลูกค้าที่ซื้อสินค้าครบ 56,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์จับรางวัลสุดพิเศษ รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2561 ณ สยามเจมส์ เฮอริเทจ (ถนนประดิษฐ์มนูธรรม)