จุดเด่นของกองทุน K-VIETNAM คือ ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของทีมบริหารจัดการลงทุนของ บลจ. กสิกรไทย ที่ได้ทำการศึกษา วิเคราะห์และลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในประเทศเวียดนามแบบ Bottom-Up มาตั้งแต่เริ่มมีการขยายขอบเขตการลงทุนโดยตรงครอบคลุมไปถึงประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียนตั้งแต่ปลายปี 2013 ซึ่งปัจจุบันมีทีมผู้จัดการลงทุนและนักวิเคราะห์ จำนวน 9 ท่านที่ได้รับมอบหมายให้ทำการศึกษาและวิเคราะห์บริษัทจดทะเบียนในประเทศเวียดนาม โดยแบ่งตามความเชี่ยวชาญในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมและประเทศ ด้วยการไป Company Visit ในพื้นที่จริงและเข้าพบผู้บริหารอย่างสม่ำเสมอ การประชุมผ่าน Conference Call กับบริษัทที่เลือกลงทุน รวมถึงการเฟ้นหาโอกาสการลงทุนในหุ้นใหม่ ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงและมีความสามารถในการแข่งขัน อย่างน้อยไตรมาสละ 1 ครั้ง ซึ่งที่ผ่านมา บลจ. กสิกรไทยมีการลงทุนโดยตรงในเวียดนามในกองทุนรวมที่มีนโยบายลงทุนโดยตรงในต่างประเทศได้ ผสมกับประเทศอื่นๆ ในอาเซียน เนื่องจาก ตลาดหุ้นเวียดนามหลายปีก่อนหน้ามีสภาพคล่องที่ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนมีค่อนข้างจำกัด ตลอดจนมีการนำเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดีมาพิจารณาประกอบด้วย ทำให้มีตัวเลือกในการลงทุนในเวียดนามไม่มากนักเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
"ภาพรวมเศรษฐกิจเวียดนามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์ตัวเลข GDP จะเติบโตในระดับ 6.7% - 6.8% ไปจนถึงปี 2020 ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่ม ASEAN Emerging Market ทั้งนี้เนื่องจากเวียดนามมีโครงสร้างประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน นับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว ประกอบกับรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและมุ่งเน้นพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับความสามารถทางการแข่งขันในระดับภูมิภาค นอกจากนี้ภาคการส่งออกมีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้เงินทุนสำรองระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่าเงินเวียดนามด่อง (VND) มีเสถียรภาพมากขึ้น" นางสาวธิดาศิริกล่าว
นางสาวธิดาศิริกล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดหุ้นเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตสูง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐที่มีความพยายามปฏิรูปตลาดทุนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงมีแผนปรับลดสัดส่วนการถือครองรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่โดยโอนกิจการของรัฐไปเป็นของเอกชน ผ่านการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของตลาดทุน ทั้งนี้คาดว่าเวียดนามจะเข้าสู่การเป็นสมาชิกตลาดประเทศกำลังพัฒนา (Emerging Market) ในปี 2020 ส่งผลให้มีเม็ดเงินจากต่างชาติเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเวียดนามยังมีปัจจัยเสี่ยงจากการมีสัดส่วนของนักลงทุนรายย่อยเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้อาจเกิดแรงเทขายหุ้นในช่วงที่ตลาดมี sentiment เชิงลบ อีกทั้งค่าเงินเวียดนามด่อง อาจมีความผันผวนในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของปัจจัยภายนอก
สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจกองทุน K-VIETNAM สามารถเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท ผ่านแอป K-My Funds และบลจ.กสิกรไทย ติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บลจ.กสิกรไทย หรือติดต่อ KAsset Contact Center 0 2673 3888
ผู้ลงทุนโปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน K-VIETNAM ลงทุนกระจุกตัวในประเทศเวียดนาม การลงทุนในหุ้นต่างประเทศอาจมีราคาผันผวนตามสภาวะตลาดและค่าเงิน กองทุนป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ทั้งนี้ เนื่องจากกองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้