“AECS ” มองทิศทางตลาดหุ้นไทยยังไม่ไปไหน ให้กรอบดัชนี 1,673 -1,708 จุด แนะกลยุทธ์เล่นหุ้นตามสัญญาทางเทคนิค

พฤหัส ๑๘ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๑๑:๑๙
บล.เออีซี มองตลาดหุ้นไทย ยังคงแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เหตุไร้ปัจจัยหนุน ให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,673 และแนวต้าน 1,708 จุด ด้านฝ่ายวิจัย แนะลงทุนเชิงเทคนิคเป็นหลัก ชูหุ้น BDMS , WHA, ROJNA, BBL, STEC ,THG , BRR, KSL สัญญาณทางเทคนิคไปได้สวย

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยว่า ทิศทางการลงทุนในส่วนตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบๆให้แนวรับ 1,673 จุด และแนวต้าน 1,708 จุด โดยมองว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังคงผันผวน เนื่องจากตัวแปรจากต่างประเทศ ที่เข้ามาเป็นตัวแปรที่สำคัญ ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุน โดยให้อิงกับสัญญาซื้อทางเทคนิค ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลยุทธ์ในเชิงเทคนิค คือ กลุ่ม Aggressive: หุ้นที่อยู่ในกรอบขาขึ้น แต่มีการพักตัว เช่น กลุ่มโรงพยาบาลBDMS , กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมฯ WHA, ROJNA, กลุ่มธนาคาร BBL, กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ KCE, กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง STEC

และ2.กลุ่ม Defensive: หุ้นทางต่ำที่รอเริ่ม Cycle รอบใหม่ เช่น กลุ่มโรงพยาบาล THG , หุ้นกลุ่มน้ำตาล (Trading): ด้วยอานิสงส์บวกจากราคาน้ำตาลโลกฟื้นตัวจากเดือน ส.ค. 61 ที่มีราคาราว 9 เซนต์ต่อปอนด์ ซึ่งปัจจุบันราคาปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 13.4 เซนต์ต่อปอนด์ ทำ New High ในรอบ 4.5 เดือน เนื่องจากปริมาณน้ำตาลส่วนเกินปรับตัวลดลงขณะที่ปริมาณการใช้น้ำตาลเพิ่มขึ้นทุกๆ ปีตามความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น มองเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นกลุ่มน้ำตาล เลือก BRR, KSL

อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัย มองว่า ปัจจัยที่ยังคงเป็นแรงกดดันตลาด จนทำให้ดัชนีแกว่งตัวในกรอบแคบๆ ยังคงเป็นความเสี่ยงที่จะเกิด Currency War หลังสัปดาห์ที่ผ่านมาจีนใช้มาตรการลด Reserve Requirement เพื่อเพิ่มสภาพคล่องใน เศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ส่งผลให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงสร้างความไม่พอใจให้กับ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการลดยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ

นอกจากนี้ ปัจจุบันนักลงทุนรอติดตามการประกาศรายชื่อประเทศที่เข้าข่ายถูกสงสัยว่าปั้นค่าเงิน ส่วนใหญ่เป็นประเทศในเอเชียซึ่งอาจจะตามมาด้วยการถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการทางการค้าที่รุนแรงขึ้น อีกทั้งเรื่องข้อพิพาทระหว่างสหรัฐฯ- ซาอุฯ ที่อาจรุกรามเป็นปัญหาทางศก. หลังผู้สื่อข่าวซาอุฯ ซึ่งเน้นเขียนวิจารณ์ผู้นำซาอุฯ หายตัวไป

และมีโอกาสที่จะถูกฆาตกรรมในสถานฑูตซาอุฯ ในตุรกี ซึ่งสหรัฐฯ ประกาศว่าจะลงโทษซาอุฯ ด้วยมาตรการทาง ศก. ขณะเดียวกันซาอุฯ ก็ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการโต้ตอบสหรัฐฯ ด้วยการลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบซึ่งจะทำให้อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ให้เร่งตัวขึ้น

สุดท้ายเรื่องความคืบหน้าของแผนถอนตัวจาก BREXIT ระหว่างอังกฤษ และ EU ที่จะมีการเจรจารอบใหม่ โดยหากทั้งสองฝ่ายยังไม่สามารถตกลงปัญหาบริเวณเขตตอนเหนือของอังกฤษในช่วงหลัง BREXIT ได้ อาจส่งผลให้อังกฤษอาจถูกบังคับให้ออกจากกลุ่มโดยไร้ข้อตกลง ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทั้งอังกฤษ และ EU

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ