ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวในโอกาสเปิดงานแสดงนิทรรศการด้านเทคโนโลยีระดับโลก "CEBIT ASEAN Thailand 2018" ซึ่งขยายการจัดงานเข้ามาสู่ภูมิภาคอาเซียนเป็นครั้งแรก โดยเลือกประเทศไทยเป็นสถานที่จัดงานว่า เป็นศักดิ์ศรีของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจัดภายใต้ชื่องาน CEBIT ASEAN เนื่องจากปี 2562 ประเทศไทยจะเป็นประธานของอาเซียน จึงสามารถกล่าวได้ว่า งานนี้เป็นการ kick off บทบาทด้านดิจิทัลของไทยในภูมิภาคนี้
ทั้งนี้ ในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา ของการทำงานของรัฐบาลสนับสนุนการพัฒนาประเทศไปสู่ยุคดิจิทัล ผ่านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ต่างประเทศโดยเฉพาะในภูมิภาคนี้ เริ่มได้ข่าวและเริ่มได้เห็นการปฏิบัติจริงเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยับขยายในเรื่องดิจิทัล ทั้งในระดับภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งประชาสังคมมากยิ่งขึ้น เกิดโครงการใหญ่ๆ ที่ชัดเจนหลายโครงการ
นอกจากนี้ ยังมีโครงการสำคัญๆ ได้แก่ สมาร์ทซิตี้ การพัฒนาไปสู่ 5จี ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า การจัดตั้งเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งมีดิจิทัล พาร์คเป็นส่วนหนึ่งในโครงการดังกล่าว การเชื่อมโยงใยแก้วนำแสงไปยังทุกหมู่บ้านในประเทศไทย (เน็ตประชารัฐ) ตลอดจนการส่งเสริมอี-คอมเมิร์ซ ซึ่งประเทศไทยกำลังเป็นแหล่งการลงทุนสำคัญด้านนี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ให้สิทธิประโยชน์มากมาย อีกทั้มีโครงการสมาร์ทวีซ่า เพื่อดึงดูดต่างชาติเข้ามาลงทุน
"ตัวอย่างเหล่านี้ย้ำชัดว่ารัฐบาลไทยขับเคลื่อนอย่างจริงจัง ผู้ประกอบการต่างประเทศ จึงเริ่มเข้าใจและเห็นโอกาส จากการที่พูดคุยกับหอการค้าของประเทศต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับเสียงขานรับจากหลายประเทศอยากเข้ามาช่วยด้านการลงทุนในประเทศไทย" ดร.พิเชฐกล่าว
สำหรับบทบาทของประเทศไทยบนเวทีผู้นำอาเซียนปีหน้า ในส่วนของกระทรวงฯ คิดแผนไว้แล้วว่าจะเลือกผลงานเด่นในการขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรมทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อนำเสนอในการประชุมระดับอาเซียนร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านอีก 9 ประแทศ โดยหนึ่งในนั้นเป็นโครงการ Smart City
"ปีหน้าจะมีการประชุมใหญ่ "ASEAN Smart Cities" เป็นเวทีร่วมกันของ Smart City ทั้ง 26 เมืองของภูมิภาคนี้ ต้องการให้เกิดเนื้อหา เกิดแนวทางการทำงานร่วมกัน และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ร่วมกัน โดยของประเทศไทยที่มองไว้ ได้แก่ ภูเก็ต เด่นเรื่อง e-Tourism, เชียงใหม่ เรื่องการดูแลสุขภาพ (Wellness) และ ขอนแก่น ในด้านโครงสร้างพื้นฐาน"
นายโอลิเวอร์ ฟรีเซ่ Member of the Managing Board บริษัท ดอชเช่อ เมสเซ่ เอจี ผู้จัดงานแสดงสินค้าและเจรจาธุรกิจระดับโลก และผู้ร่วมจัดงาน CEBIT ASEAN Thailand 2018 กล่าวว่า ช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้มองหาสถานที่ซึ่งมีศักยภาพในการเป็นประตูสู่อาเซียน เพื่อใช้จัดงานแสดงเทคโนโลยีระดับโลก "ซีบิท (CEBIT)" ขึ้นในภูมิภาคอาเซียน และตัดสินใจว่าประเทศไทยเหมาะสม ที่จะเป็นเกตเวย์สู่ตลาดอาเซียน
เนื่องจากเชื่อมั่นในความพร้อมจากการที่รัฐบาลขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมดิจิทัล และนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยวางรากฐานครอบคลุมทุกด้าน ซึ่งศักยภาพข้อนี้ จะช่วยดึงดูดจำนวนผู้เข้าชมงาน ภาคธุรกิจที่เข้าร่วมตลอดช่วงเวลาจัดงาน 3 วัน และเชื่อมั่นว่าความสำเร็จจากปีแรกของการจัดงาน จะปูทางไปสู่การสร้างให้ CEBIT ASEAN Thailand ก้าวขึ้นเป็น งานแสดงเทคโนโลยีด้านไอซีทีและดิจิทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนต่อไป
ทั้งนี้ ผู้จัดงานคาดหมายว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 8,000 คน โดยงานนี้รวบรวมผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล กว่า 200 แบรนด์ ทั้งจากไทย จีน เกาหลี ไต้หวัน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ อินเดีย มาเลเซีย และบังคลาเทศ เข้าร่วมจัดแสดงเทคโนโลยี ระหว่างวันที่ 18-20 ตุลาคม 2561 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี