รองนายกฯ พลเอก ฉัตรชัย ลงพื้นที่ 3 จว.ชายแดนใต้ ติดตามความก้าวหน้าและรณรงค์ให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปรับวัคซีนป้องกันโรคหัดตามกำหนด

จันทร์ ๒๒ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๕๙
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อม รองนายกฯ พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ติดตามความก้าวหน้าและรณรงค์เชิญชวนให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานที่มีอายุต่ำกว่า 1 ปี ไปรับวัคซีนป้องกันโรคหัดตามกำหนด อาการที่พบได้บ่อยคือ "ไข้ออกผื่น" โดยอาจจะมีไข้สูง 3-4 วัน จึงเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้นที่ใบหน้าแล้วแผ่กระจายไปตามลำตัว แขน ขา หากพบอาการดังกล่าวควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา

วันนี้ (19 ตุลาคม 2561) ที่จังหวัดปัตตานี นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค ได้ลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ พร้อมรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามติดตามความก้าวหน้าด้านสุขภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการป้องกันโรคหัดในพื้นที่ พร้อมรณรงค์เชิญชวนให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปรับวัคซีนป้องกันโรคหัดตามกำหนด

ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 17 ตุลาคม 2561 มีรายงานผู้ป่วยโรคหัดทั่วประเทศ 2,495 ราย เสียชีวิต 6 ราย ภาคที่มีอัตราป่วยต่อประชากรแสนคนสูงสุดคือภาคใต้ รองลงมาคือภาคกลาง สำหรับสถานการณ์โรคหัดจังหวัดยะลาพบผู้ป่วย 383 ราย เสียชีวิต 6 ราย รองลงมาคือจังหวัดปัตตานี 115 ราย และจังหวัดนราธิวาส 57 ราย ตามลำดับ

นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวต่อไปว่า โรคหัดเกิดจากเชื้อไวรัส Measles ซึ่งเป็นไวรัสที่พบได้บ่อยในจมูกและลำคอผู้ป่วย อาการที่พบบ่อยของโรคหัด คือ "ไข้ออกผื่น" โดยมักมีอาการไข้สูงประมาณ 3-4 วัน แล้วเริ่มมีผื่นนูนแดงขึ้น โดยผื่นเริ่มขึ้นจากหลังหูแล้วลามไปยังใบหน้าบริเวณชิดขอบผม แล้วแผ่กระจายไปตามลำตัว แขน ขาเมื่อผื่นแพร่กระจายทั่วตัว ประมาณ 2-3 วัน ไข้จะค่อย ๆ ลดลง และผื่นก็จะค่อย ๆ จางหายไป ผิวหนังบริเวณที่เป็นผื่นมากอาจจะลอกเป็นขุยหรือเปลี่ยนเป็นสีคล้ำขึ้นได้ ส่วนภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ คือ คออักเสบ หลอดลมอักเสบจนถึงปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ ท้องเสีย และสมองอักเสบ ซึ่งเป็นภาวะที่รุนแรงที่สุด หากป่วยด้วยโรคหัดหรือสงสัยว่าเป็นโรคหัดควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย เก็บตัวอย่างเลือดส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและรับการรักษา

ทั้งนี้ นโยบายการควบคุมโรคหัด สามารถควบคุมได้ด้วยประชารัฐร่วมใจในทุกพื้นที่ นำโดยผู้ว่าราชการจังหวัด เน้นการให้วัคซีนเพื่อป้องกันโรค โดยการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชน ในเรื่องการให้วัคซีนโดยไม่ผิดหลักศาสนา และสนับสนุนให้มีคลังวัคซีนและจัดหาวัคซีนเพื่อการควบคุมและกำจัดโรคหัด ตามพันธะสัญญานานาชาติ

โรคหัด เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน ซึ่งตามแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข จะฉีดวัคซีนรวมป้องกันโรคหัด-คางทูม-หัดเยอรมัน เข็มแรกเมื่อเด็กอายุ 9 เดือน และเข็มที่สองเมื่ออายุ 2 ปีครึ่ง หากพบว่ายังไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบตามเกณฑ์ ผู้ปกครองสามารถพาไปรับวัคซีนทันทีได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐทุกแห่ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าโรคหัดจะมีอัตราการป่วย ตาย ต่ำในเด็กทั่วไปที่มีสุขภาพแข็งแรงและยังสามารถเข้าถึงการรักษาได้รวดเร็ว แต่ยังคงเป็นอันตรายในเด็กเล็ก เด็กที่มีภาวะขาดสารอาหารหรือเด็กที่มีภาวะทุพโภชนาการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ