นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ. ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "TIGER" ในวันที่ 24ตุลาคม 2561
TIGER เป็นบริษัท Holding Company มีบริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด เป็นบริษัทแกน ประกอบธุรกิจให้บริการรับเหมาก่อสร้างงานวิศวกรรมโยธาทุกประเภท รวมทั้งงานออกแบบวิศวกรรม และงานออกแบบสถาปัตยกรรม นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจที่สนับสนุนการให้บริการรับเหมาก่อสร้าง ผ่านทางบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ บริษัท ทีอีจี อลูมินั่ม จำกัด ดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งอุปกรณ์จากกระจกและอลูมิเนียม และ บริษัท ทีอี แมค จำกัด ดำเนินธุรกิจออกแบบและผลิต พร้อมติดตั้งระบบน้ำดีและน้ำเสีย รวมทั้งจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับงาน กลุ่มบริษัทมีประสบการณ์รับงานจากทั้งภาครัฐและเอกชน คอนโด โรงแรม และรีสอร์ท
TIGER มีทุนชำระแล้ว 230 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 337.72 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน122.28 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) โดยแบ่งเป็นเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 91.71 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัทไม่เกิน 18.34 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานไม่เกิน 12.23 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2561 ในราคาหุ้นละ 3.65 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 446.32 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,679 ล้านบาท มี บมจ. หลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง (TIGER) เปิดเผยว่าบริษัทให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบุคลากร ได้แก่ วิศวกร การนำระบบสารสนเทศ และนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคู่ค้า การเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม รวมถึงการให้บริการหลังการส่งมอบงานซึ่งถือเป็นจุดเด่นในการดำเนินธุรกิจรับเหมาของกลุ่มบริษัท โดยเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะส่งผลต่อความพึงพอใจของลูกค้าและก่อให้เกิดการใช้บริการซ้ำและการบอกต่อ ทั้งนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท
TIGER มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มศรีกุลเรืองโรจน์ ถือหุ้น 43.23% นายกิตติ ดุษฎีพฤฒิพันธุ์ ถือหุ้น 28.78% และกลุ่มยุวถาวร ถือหุ้น 3.10% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 3.65 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 22.99 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2560-30 มิถุนายน 2561) ซึ่งเท่ากับ 73.04 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.16 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 30% ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษี และทุนสำรองตามกฎหมาย
รายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่www.thaienger.com และ www.set.or.th