พิกุล(ราณี แคมเปน) หญิงสาวหน้าตาสะสวยผู้เติบโตมาในคณะมโหรีปี่พาทย์ของจางวางพ่วง(สรพงษ์ ชาตรี)ผู้เป็นพ่อ ถูกสอนให้เป่าปี่แก้วจนมีความสามารถเป็นที่เลื่องลือไปทั่วทั้งพระนครทั้ง ๆ ที่อายุยังน้อย จางวางพ่วงเป็นหัวหน้าคณะวงมโหรีปี่พาทย์ที่มีชื่อเสียง พิกุลถูกสอนให้เป่าปี่แก้วมาตั้งแต่เด็ก โดยได้รับการสืบทอดปี่แก้วมาจากย่าของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว เพราะธรรมเนียมของตระกูลที่จางวางพ่วงยึดถือปฏิบัติกันมา โดยคนที่จะเป่าปี่แก้วได้นั้นจะต้องเป็นผู้หญิงเท่านั้น พิกุลมีเพื่อนสนิทคือเอื้อย(พริมา พันธุ์เจริญ)หญิงสาววัยเดียวกันที่เป็นลูกสาวของนางสุด(นฤมล พงษ์สุภาพ)แม่ครัวผู้อาศัยอยู่ในเรือนของจางวางพ่วง แต่เอื้อยเป็นคนที่มีนิสัยทโมน หัวช้ามักจดจำโน้ตดนตรีไม่ค่อยได้ เอื้อยก็เลยถูกสอนให้เล่นฉิ่งแทนที่จะไปเล่นเครื่องดนตรีชิ้นอื่นที่ยากกว่า
หลวงราช(วรินทร ปัญหกาญจน์) ลูกชายคนเดียวของเจ้าพระยาพิชัยเดชา(เกรียงไกร อุณหะนันทน์) และ ท่านผู้หญิงเกสร(ดวงตา ตุงคะมณี)เดินทางกลับมาจากเมืองนอก ไม่ยอมเข้าบ้าน ชวนมุด(หนึ่ง ชัชวาล) ไปเที่ยวตลาดที่สุพรรณบุรี มีเรื่องกับนักเลงด้วยความคึกคะนอง ดีที่ไม่บาดเจ็บเป็นอันตราย หลวงราชได้มีโอกาสช่วยพิกุลที่จมน้ำ แต่ยังไม่มีโอกาสคุยกัน มาพบกันอีกทีตอนที่พิกุลกำลังเป่าปี่อยู่ แต่พอเข้าไปทัก มีงูเลื้อยมาจะกัดพิกุล หลวงราชรีบเข้าไปช่วย แต่ก็ทำให้ปี่ของพิกุลแตก เธอเสียใจมาก ไม่กล้าบอกจางวางพ่วง เพราะถือว่าเป็นโทษหนัก