เปิดใจ “ยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์” นักธุรกิจรุ่นใหม่ ผู้เริ่มต้นอีเว้นท์ด้านญี่ปุ่น “JAPAN EXPO” สู่ตลาดสากล

พุธ ๓๑ ตุลาคม ๒๐๑๘ ๐๙:๕๑
"ในฐานะ คนไทยที่มีโอกาสได้ร่วมทำงานกับประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีความเชื่อมโยงระหว่างสองประเทศมากว่าสิบปี อีกทั้งในฐานะผู้ประกอบการ รวมถึงการขยายกิจการไปยังตลาดอาเซียน เชื่อได้ว่า งาน JAPAN EXPO จะเป็นมากกว่าคำว่า "อีเว้นท์" ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมโยงสำหรับนักธุรกิจไทยและญี่ปุ่น ที่จะสามารถต่อยอดสร้างธุรกิจในอนาคต และขยายตลาดไปยังภูมิภาคอาเซียน

บริษัท จี-ยูครีเอทีฟ จำกัด ได้ให้ความสำคัญกับงานทุกประเภท ซึ่งทีมงานเรายังร่วมมือประสานงานด้านต่างๆ อีกหลายสิบงานเพื่อเสริมสร้างธุรกิจระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นในทุกๆ ด้าน พร้อมทั้งสนับสนุนนโยบายรัฐบาลไทยที่จะให้ความสำคัญในมิตรภาพประเทศไทยและประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

ทั้งนี้ความสัมพันธ์ไทยและญี่ปุ่นสามารถเริ่มจากสิ่งที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า "พลังละมุน" หรือ "Soft Power" (the ability to indirectly influence behaviour or interests through cultural) ที่มาในรูปแบบของการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ อาทิ วัฒนธรรม บันเทิง และ อาหาร "มิตรภาพต้องนำธุรกิจ" หากเรามีความเข้าใจซึ่งกันและกันทั้งในด้านวัฒนธรรมและความคิดที่สามารถเปิดรับในด้านความเหมือนและความแตกต่าง และการสานต่อเรื่องธุรกิจนั้นจะสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างยั่งยืน"

สำหรับนักธุรกิจเลือดใหม่อย่าง คุณเกิร์ล-ยุพเรศ เอกธุระประคัลภ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จี-ยู ครีเอทีฟ จำกัด เปิดใจภายหลังจากที่งาน JAPAN EXPO THAILAND งานอีเว้นท์ฝีมือคนไทยแต่ทำได้ยิ่งใหญ่ในระดับอาเซียน ประสบความสำเร็จมาถึง 4 ปีแล้ว และกำลังจะเริ่มเดินหน้าเตรียมงานครั้งยิ่งใหญ่ กับมหกรรมญี่ปุ่นแห่งปี! JAPAN EXPO THAILAND 2019 ซึ่งในครั้งนี้ถือว่าจัดอย่างยิ่งใหญ่ฉลองงานเข้าสู่ปีที่ 5 โดยจะจัดขึ้นในระหว่างวันศุกร์ที่ 25 ถึง วันอาทิตย์ ที่ 27 มกราคม 2562 ณ ศูนย์การค้า CentralWorld

คอนเซ็ปต์ JAPAN EXPO THAILAND2019 ครบ 5 ปี

ในการจัดงาน JAPAN EXPO THAILAND ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นงานอีเว้นท์ที่รวมความเป็นญี่ปุ่นไว้ ซึ่งแต่ละครั้งนั้นมีสีสันและไฮไลต์ที่น่าสนใจแตกต่างกันออกไป

สำหรับงานในครั้งที่ 5 นี้ คุณยุพเรศ เผยว่า ที่ผ่านผู้ที่เข้าร่วมงานชื่นชอบส่วนไหนเรายังคงเดิมไว้ และใน ขณะเดียวกันเราได้มีการเก็บข้อมูลต่างๆ เพื่อเตรียมจัดงาน ซึ่งบอกได้เลยว่ามีหลายกิจกรรมที่น่าสนใจอีกมากมาย

และสิ่งที่อยากจะนำมาเพิ่มเติมในงานครั้งนี้ก็คือเรื่องของดิจิทัล เพราะ ณ ปัจจุบันรัฐบาลไทยได้พยายามผลักดันให้นักธุรกิจหรือผู้ประกอบการไทยนำเอาเรื่องของดิจิทัลเข้ามามีส่วนของธุรกิจ โดยญี่ปุ่นคือหนึ่งในประเทศที่มีความเจริญในเรื่องของดิจิทัลและเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นงานที่เอกลักษณ์โดดเด่น

สำหรับภาพรวมอันโดดเด่นของงาน JAPAN EXPO THAILAND 2019 ได้รับการเปิดเผยจากคุณยุพเรศว่าในปีนี้จะดึงจุดเด่นของงาน 5 อย่าง เริ่มจาก อย่างแรก อาหารการกิน ถ้าเราถามคน 10 คนเรื่องไลฟ์สไตล์อาหารที่คุณกินนอกจากอาหารไทยแล้ว รองลงมาจะเป็นอาหารญี่ปุ่น เชื่อว่าอาหารญี่ปุ่นคือหนึ่งในใจของหลายคน จึงได้ดึงสุดยอดของอาหารญี่ปุ่นกว่า 30 ร้านค้าที่บินตรงจากประเทศญี่ปุ่นบินตรงมาให้ได้ลิ้มลองกันในงานนี้โดยเฉพาะ

อย่างที่สอง เรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งในปีนี้จะเพิ่มขึ้นมาจากเดิม 2 โซน เป็น 3 โซน เพิ่มจากปีที่แล้วขึ้นมาอีก 1 โซน เนื่องจากการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นคนไทยให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ภายใน 1 ปีที่ผ่านมา มีคนไทยไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่นนับกว่าล้านคน ซึ่งภายในงานมีแพคเกจการท่องเที่ยวพร้อมทั้งสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้ผู้ที่ชื่นชอบและหลงไหลในการท่องเที่ยวได้มาเลือกสรรในงานนี้อีกด้วย รวมไปถึงการนำจุดเด่นของแต่ละจังหวัดมานำเสนอ อาทิ จังหวัดโทคุชิมะ ได้นำการแสดงโชว์สุดอลังการ อย่าง "การร่ายรำอาวะโอโดริ" แบบดั่งเดิม ส่งตรงจากแดนปลาดิบกว่า 30 ชีวิต พร้อมทั้งเหล่าศิลปิน ที่มาร่วมในงานนี้ด้วย

อย่างที่สาม นอกจากกิจกรรมต่างๆที่ขนกันมาอย่างมากมายแล้ว ก็ยังมี ศิลปิน J-POP, J-ROCK ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีศิลปินมาเข้าร่วมแสดงในงานครั้งนี้กว่า 300 ชีวิต หรือประมาณ 40-50 วง ถือว่ารวมไอดอลญี่ปุ่นไว้มากที่สุดในเอเชียเลยก็ว่าได้

อย่างที่สี่ ในงานนี้ยังมีกิจกรรมคอสเพลย์พาเหรด, อานิเมะชื่อดัง, รวมไปถึงคาแร็กเตอร์การ์ตูน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในไฮไลท์ของคนไทย เพราะคนไทยมีแรงบันดาลใจกับตัวการ์ตูน ทำให้เริ่มสนใจในการเรียนภาษาญี่ปุ่น , เรียนรู้การวาดการ์ตูนอีกด้วย และในปีนี้ทางผู้จัดงานยังมีการแข่งขันAnimation Challenge เพื่อส่งเสริมและโปรโมทการท่องเที่ยวทั้งไทยและญี่ปุ่น โดยนำเสนอผ่านมาสคอตของงาน "มูจัง" และ "เก็นคุง" ซึ่งจะทำหน้าที่เล่าเรื่องราวต่างๆที่น่าสนุกและตื่นเต้นและทั้งประทับใจในการนำเสนอครั้งนี้

อย่างที่ห้า กิจกรรม POP Culture ซึ่งได้รวมความเป็นวัฒนธรรม, แฟชั่น และศิลปะไว้ในงานครั้งนี้ และสำหรับงานนี้ทางเราได้เชิญศิลปินที่มีชื่อเสียงด้านศิลปะจากประเทศญี่ปุ่น คุณฮิโรยูกิ มิสึเมะ ทาคาฮาชิ เป็นศิลปินที่ทำผลงานออกมาได้น่าสนใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งครั้งนี้ได้ออกแบบเพื่อนำลายมาใช้ในการทำเสื้อผ้าเดินแบบแฟชั่นที่จะเปิดตัวในงานอีกด้วย

ขยายฐาน "B2B" ออกไปกว้างขึ้น

งาน JAPAN EXPO THAILAND ในแต่ละปีนั้นได้ก่อให้เกิด B2B หรือ Business-to-Business คือ Business ของคุณนั้นได้ทำธุรกิจโดยขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นลูกค้าองค์กร ซึ่งไม่ได้เน้นเป็นรายบุคคล ทางคุณยุพเรศ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ยกตัวอย่าง ผู้ที่เข้ามาร่วมงานเข้ามาซื้ออุปโภค บริโภค นั่นคือ B2C หรือ Business-to-Consumer หมายถึงธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการให้กับลูกค้าที่เป็นผู้บริโภคทั่วไป แล้วถ้าหากว่า เมื่อเราใช้จ่ายเสร็จทางลูกค้าอยากเป็นตัวแทนก็ทำให้เกิด B2B ใน B2C ได้ เป็นการต่อยอดธุรกิจได้

ซึ่งที่ผ่านมานับเป็นเรื่องน่าดีใจ หลายองค์กรที่มีโอกาสได้เป็นคู่ค้า บางรายสามารถมาเปิดธุรกิจในประเทศไทยด้วย ซึ่งมีอยู่หลายร้านที่ประสบความสำเร็จ แม้แต่ในโซนวัฒนธรรม ร้านสตูดิโอที่มีชุดให้เช่า อาทิ ชุดโออิรัน , ชุดแต่งงานในแบบต้นฉบับญี่ปุ่น ฯลฯ ที่ มาจากประเทศญี่ปุ่นหลังจากที่มาเข้าร่วมออกงานกับทางเราก็ได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี ถูกติดต่อเช่าไปเป็นชุดแสดงละคร ชุดออกงาน ได้เป็นธุรกิจต่อยอด จนถึงวันนี้กำลังจะเปิดสาขาใหม่อีกด้วย ซึ่งสามารถต่อยอดธุรกิจได้เพิ่มขึ้นรวมไปถึงธุรกิจหลายอย่างที่มาร่วมงานล้วนแล้วแต่ได้ต่อยอดเป็น B2B แทบทั้งนั้น

เพิ่มแฟมิลี่โซน

สำหรับการจัดงานในปีครั้งที่แล้ว เราเปิดกิจกรรมภายในงานถึง 13 โซน แต่ในครั้งนี้จะเพิ่มเป็น 15 โซน ซึ่งในปีนี้จะเน้น "แฟมิลี่โซน" โดยคุณยุพเรศ กล่าวว่า เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกๆ มาสนุกสนานได้ อาจมีคาแรคเตอร์ของตัวการ์ตูนใหม่ๆ มาสร้างสีสันในงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่คาแรคเตอร์โซนคนรุ่นใหม่ที่ชอบวาดรูปหรือชอบวาดการ์ตูน งานในครั้งนี้จะจัดเต็มมากขึ้นกว่าเดิม

"อีกหนึ่งสีสันของงานครั้งนี้คือ เพื่อเป็นการนำร่องโอลิมปิก 2020 ที่ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ ปีนี้จะสอดแทรกเรื่องของสปอร์ตเข้าไปด้วย โดยอาจจะนำนักกีฬาทีมชาติดังๆ ที่ไทยเรามีส่วนร่วมในโอลิมปิกด้วย เช่น นักวอลเลย์บอล และ นักกอล์ฟ ที่คนไทยชอบมาสร้างกิจกรรมความสัมพันธ์อันดีงานระหว่างทั้ง2ประเทศอีกด้วย

ทุ่มงบเพิ่ม 50 ล้านเพื่องานสตรอง

ประธานกรรมการบริหาร บริษัท จี-ยู ครีเอทีฟ จำกัด กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า อีกเรื่องที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงานคือ "งบประมาณ" สำหรับในครั้งที่ 5 นี้ ได้เพิ่มงบจากครั้งละ 30 ล้านบาทเป็น 50 ล้านบาท!!! เพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 5 ปีอย่างยิ่งใหญ่ ของงานมหกรรมญี่ปุ่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชีย อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เราขนความสนุก ความบันเทิง รวมไปถึงกิจกรรม ศิลปิน ดาราอีกมากมายมาย ไว้อย่างครบรสในงานนี้งานเดียว จัดเต็ม จัดใหญ่แน่นอน!!!!

ในการจัดงานอีเว้นท์ต่างๆ สิ่งที่ผู้จัดกังวลใจมากที่สุดนั่นคือ "งบสนับสนุน" ที่มาจากสปอนเซอร์ ซึ่งต้องคอยลุ้นกับเศรษฐกิจที่ผันผวนได้ตลอดเวลา

คุณยุพเรศ เปิดใจว่า ถือว่าเป็นความโชคดี ต้องขอขอบคุณที่สปอนเซอร์ทุกรายยังให้การสนับสนุนและให้โอกาสในการทำงาน ถ้าถามว่าอะไรคือการครองใจให้ผู้สนับสนุนทั้งหลายอยู่อย่างเหนียวแน่นนั้น เนื่องจากการจัดงานในแต่ละปีนั้น เราเป็นเหมือนพี่เหมือนน้อง จุดนี้คือสิ่งสำคัญมากกว่าคำว่า "ธุรกิจ" เวลาเรามีมิตรภาพให้กันนั้นเกินกว่าเรื่องเงิน ซึ่งการทำงานงานหนึ่งนั้น ต้องออกมาจากใจและทำให้เป็นที่ยอมรับต่อผู้เข้าร่วมงาน และพอใจต่อผู้สนับสนุนงานอีกด้วย

ความเข้มแข็งขององค์กร

คุณยุพเรศ กล่าวด้วยว่า นี่คือสิ่งที่เรากำลังช่วยกันในภาพรวมที่ทำให้ประเทศไทยสามารถต้อนรับคนญี่ปุ่น พร้อมทั้งรองรับทั้งความรู้สึก การลงทุน และรายได้ให้เข้าสู่ประเทศโดยแท้จริง โดยคาดการณ์ว่าเป็นเม็ดเงินที่จะนำมาลงทุนนั้นประมาณหลายร้อยล้าน ซึ่งในการทำธุรกิจนั้นคงไม่เกิดในวันสองวันอย่างแน่นอน แต่สามารถก่อให้เกิดขึ้นในระยะยาวอย่างแน่นอน เอาเฉพาะในงาน JAPAN EXPO THAILAND มีเงินหมุนเวียนในงานนับหลายสิบล้านแล้ว และหลังจากนี้จะมีการต่อยอดธุรกิจพร้อมทั้งยังมีการลงทุนในไทยอีกด้วย เราจึงเหมือนสะพานที่กำลังจะเปิดให้ญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในประเทศอย่างแท้จริง

ในขณะเดียวกัน คุณยุพเรศได้มีโอกาสเขาร่วม โครงการ Yen-D ของกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ สร้างเครือข่ายผู้ประกอบการไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน (Young Entrepreneur Network Development Program) ภายใต้การส่งเสริมและสนับสนุนจากกระทรวงต่างประเทศ และได้ถูกเลือกเป็นประธานในระหว่างไทยกับเมียนมาร์ เราอยู่ในโครงการนี้ยินดีที่จะสร้างธุรกิจให้กับคนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาด CLMV แล้วหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีโอกาสได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญทางด้านญี่ปุ่นไปขยายงาน Japan Expo ไปในอีกหลายประเทศในฝั่งเอเชียด้วย

นอกจากนี้คุณยุพเรศยังมีโครงการที่จะขยายไปตลาดเพื่อนบ้านเพิ่มเติม ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี เพราะเป็นการครบรอบ 10 ปี ความร่วมมือประเทศลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น (Mekong-Japan Cooperation) โดยทาง บริษัท จียู ครีเอทีฟ จำกัด ก็อยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันเศรษฐกิจประเทศไทยผ่านตัวงาน ทั้งสินค้า บริการ และด้านบันเทิงระหว่างสองประเทศ

โดยเผยว่า ในปีที่ผ่านมาเราได้นำงานอีเว้นท์ดีแบบนี้ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม พร้อมทั้งมีการวางแผนงานที่จะขยายไปยังประเทศเมียนมาร์อีกด้วย ซึ่งในขณะนี้มีหลายประเทศที่ติดต่อเข้ามาอยากซื้อสิขสอทธิ์ของ JAPAN EXPO ไปเปิด อาทิ สิงคโปร์ เวียดนาม และไต้หวัน เขาอยากซื้อลิขสิทธิ์ไปทำเอง แต่ความต้องการของเราคืออยากไปเริ่มด้วยตัวเอง นำความสนุกความบันเทิงและกิจกรรมต่างๆไปเผยแพร่ในฝั่งเอเชีย ให้ได้มากที่สุด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีในการจัดงานครั้งต่อๆไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version