นายปริโสทัต ปุณณภุม รองกรรมการผู้จัดการบริหาร ด้านทรัพยากรบุคคล ซีพีเอฟ เปิดเผยว่า บริษัทฯจัดโครงการ"การวางแผนและสร้างอาชีพสู่วัยเกษียณ"เป็นกิจกรรมภายใต้โครงการเกษียณเกษม ซึ่งบริษัทฯดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี2552เพื่อให้พนักงานที่เข้าสู่วัยเกษียณได้รับความรู้ความเข้าใจและเป็นแนวทางในการสร้างอาชีพ ปรับทัศนคติในการใช้ชีวิต สามารถนำความรู้ไปต่อยอดในการดำเนินชีวิตหลังเกษียณได้ โดยในปี 2561 นี้ ได้นำพนักงานของโรงงานและฟาร์ม 17 แห่ง จำนวน 384 คน ไปเรียนรู้การสร้างอาชีพที่ศูนย์การเ รียนรู้เกษตรผสมผสานแบบเศรษฐกิจพอเพียงบ้านดอนวัว ตำบลลาดบัวขาว อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา รวมทั้งจัดให้ความรู้ด้านประกันสังคมสำหรับผู้เกษียณ ให้ความรู้ด้านอาชีพและเฟรนไชส์ในเครือซีพี
โครงการ"การวางแผนและสร้างอาชีพสู่วัยเกษียณ"เป็นโครงการที่ซีพีเอฟเตรียมความพร้อมในการสร้างอาชีพให้แก่ พนักงานก่อนเข้าสู่วัยเกษียณ โดยยึดหลักการ 3 ส ประกอบด้วย 1. ส.เสริมสร้าง คือ เสริมสร้างความรู้ สมรรถนะ และทัศนคติการใช้ชีวิตในวัยเกษียณ 50 ปีขึ้นไป 2. ส. สร้างสุข คือ สร้างความสุข ความประทับใจ ส่งท้ายความรู้สึกที่ดีแก่ผู้เกษียณ 55 ปี และ 3. ส.สู่ความยั่งยืน คือ พนักงานสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างยั่งยืน จากการติดตามผลพนักงานที่เกษียณอายุไปแล้วนำความรู้ที่ได้จากการไปศึกษาดูงานมาประยุกต์ใช้และบางส่วนยึดเป็นอาชีพ เช่น เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด มีรายได้พึ่งพาตนเองได้
นายวิชาญ โพธิ์เล็ก ปัจจุบันอายุ 55 ปี เป็นพนักงานยานยนต์ โรงงานอาหารแปรรูปมีนบุรี 2 ของซีพีเอฟ ทำงานมา 16 ปี และจะเกษียณอายุปลายปี 2561 เล่าว่า มีโอกาสร่วมโครงการ"การวางแผนและสร้างอาชีพ สู่วัยเกษียณ" เป็นโครงการที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับพนักงานที่กำลังจะเกษียณอายุ เพราะจากที่คุยกับเพื่อนพนักงานหลายคนยังไม่ได้วางแผนชีวิตหลังเกษียณ
"ผมตั้งใจมาเรียนรู้เพิ่มเติมเรื่องการเลี้ยงไก่ เพราะตัดสินสินใจแล้วว่าหลังจากที่เกษียณอายุจะเลี้ยงไก่เป็นอาชีพเสริม เนื่องจากเคยทำโรงเรือนเลี้ยงไก่ไว้ แต่เลิกเลี้ยงไปเพราะไม่มีเวลา หลังเกษียณคิดไว้ว่าจะกลับมาเลี้ยงไก่อีกครั้ง ซึ่งได้มาศึกษาเพิ่มเติมที่ศูนย์การเรียนรู้ฯบ้านดอนวัว นอกจากนี้ ยังได้ความรู้เรื่องการทำปุ๋ยชีวภาพที่คิดไว้แล้วว่าจะกลับไปทำเองที่บ้าน" พนักงานซีพีเอฟวัย 55 ปีที่เตรียมเกษียณอายุในปีนี้ กล่าว
นางพะเยาว์ บัวพรหม อายุ 59 ปี อดีตแม่ครัวที่เคยทำงานกับโรงฟักไข่ลาดบัวขาวของซีพีเอฟ มาเป็นเวลา 20 ปี และเกษียณเมื่อปี 2558 เล่าว่า หลังจากที่เกษียณอายุแล้ว ได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของศูนย์การเรียนรู้ฯ เพราะอยากเรียนรู้เพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบอาชีพหารายได้เสริมนอกเหนือจากอาชีพทำนา จึงเลือกเรียนรู้เกี่ยวกับการปลูกผักสวนครัว เพราะบริเวณบ้านมีพื้นที่ไม่มากนัก ปัจจุบันแม้ว่าผลผลิตจากผักสวนครัวที่ปลูกไว้ไม่ได้มีผลผลิตมากจนสามารถนำไปขายได้ แต่ก็สามารถช่วยลดรายจ่ายลงจากการที่ต้องซื้อผักวันละ 100-200 บาท และยังมีผลผลิตจากผักสวนครัวที่สามารถแบ่งปันให้เพื่อนบ้าน
ด้านนายสาย เกี๋ยงเลน อายุ 59 ปี อดีตหัวหน้าคนงานฟาร์มไก่ลาดบัวขาวของซีพีเอฟ ซึ่งทำงานที่ฟาร์ม 30 ปี เล่าว่า หลังเกษียณ เมื่อปี 2558 ได้สมัครเป็นสมาชิกของศูนย์การเรียนรู้ฯเพราะสนใจเรื่องการเลี้ยงไก่ และมี ประสบการณ์เลี้ยงไก่อยู่บ้างในช่วงที่ทำงานที่ฟาร์ม ตอนนี้จึงยึดอาชีพเลี้ยงไก่และเลี้ยงเป็ดทำให้มีรายได้เลี้ยงตัวเองได้ในวัยเกษียณ