บลจ.ทิสโก้คว้ารางวัล Best Provident Fund Provider Thailand 2018 เดินหน้าให้บริการเข้าถึงลูกค้าทุกราย เสริมความรู้การออม - ใช้เงินรับเกษียณ

พฤหัส ๐๑ พฤศจิกายน ๒๐๑๘ ๑๔:๕๕
บลจ.ทิสโก้คว้ารางวัล Best Provident Fund Provider Thailand 2018 จากสื่อการเงินระดับโลก เดินหน้าให้บริการที่เข้าถึงลูกค้าทุกรายอย่างมีคุณภาพ เผยทั้งปีจีบลูกค้าใหม่ได้ตามเป้าหมาย ครองมาร์เก็ตแชร์ด้านจำนวนลูกค้าสูงสุดในอุตสาหกรรม แย้มเตรียมออกทางเลือกการลงทุน Smart Life-path แบบที่ไม่ใช่แค่เหมาะกับอายุ แต่เหมาะสมกับความเสี่ยงและเป้าหมายเกษียณของแต่ละบุคคล

นางแขขวัญ โรจน์วัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (Mrs. Kaekwan Rojwattanakul Head of Marketing - Provident Fund TISCO Asset Management Co., Ltd.) กล่าวว่า ด้วยประสบการณ์ของกลุ่มทิสโก้ในการบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาตั้งแต่พ.ศ. 2512 ส่งผลให้สามารถสร้างสรรค์ทางเลือกในการลงทุนเพื่อการเกษียณที่หลากหลาย พร้อมกับสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับสมาชิก ทำให้ล่าสุด บลจ.ทิสโก้ได้รับรางวัล Best Provident Fund Provider Thailand 2018 ในงาน Global Banking and Finance Review Awards 2018 จาก Global Banking and Finance Review สื่อการเงินชั้นนำระดับโลก ถือเป็นการตอกย้ำการทำงานอย่างมืออาชีพ ที่ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อสมาชิกกองทุน

"บลจ.ทิสโก้ให้ความสำคัญเรื่องการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลาย และสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับสมาชิกด้วยการปรับปรุงการบริการอยู่เสมอ ควบคู่กับการส่งเสริมความรู้ด้านการออมและการจัดการทางการเงินให้เข้าถึงสมาชิกแต่ละรายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การจัดงานสัมมนา เว็บไซต์ โมบายแอพพลิเคชัน My PVD My TISCO ไลน์ @TISCO Asset และเฟซบุ๊ก TISCO ภายใต้โครงการ "TISCO Smart Retirement สุขทุกวันยันเกษียณ" โดยปัจจุบันบลจ.ทิสโก้มีสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพกว่า 5.5 แสนรายแล้ว" นางแขขวัญกล่าว

ปัจจุบันธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของ บลจ.ทิสโก้ มีส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) ในด้านจำนวนบริษัทนายจ้างมากที่สุดในอุตสาหกรรม โดยข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุนพบว่า ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2561 บลจ.ทิสโก้มีจำนวนบริษัทนายจ้างที่มอบหมายให้บริหารจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้น 4,200 บริษัท หรือคิดเป็น 22.11% ของจำนวนบริษัทนายจ้างที่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทั้งสิ้น 19,000 บริษัท ขณะที่มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2561 อยู่ที่ 1.6 แสนล้านบาท เติบโต 2.75% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี 2561 ถือเป็นระดับการขยายตัวที่มากกว่าอุตสาหกรรมที่เติบโต 1.6% โดยสาเหตุหนึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนบริษัทนายจ้างที่เคยมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว และบริษัทนายจ้างใหม่ที่ไม่เคยมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาก่อน รวมแล้วกว่า 300 บริษัท ซึ่งถือเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ตั้งแต่ต้นปี 2561

นางแขขวัญ กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมาค่าเฉลี่ยของอัตราการจ่ายเงินสมทบนายจ้างอยู่ที่ประมาณ 3-5 % ของเงินเดือนลูกจ้าง ซึ่งบลจ.ทิสโก้ได้เข้าไปให้ความรู้และผลักดันให้สมาชิกกองทุนและนายจ้างเห็นความสำคัญของการออมเพื่อการเกษียณอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทนายจ้างที่เป็นลูกค้าของบลจ.ทิสโก้กว่า 1,000 บริษัทนั้น ปลดล็อกเงินสมทบให้ลูกจ้างสามารถออมเงินเพิ่มเติมได้สูงสุดที่ 15% ของเงินเดือน นอกจากนี้ ยังพบว่าลูกจ้างที่ลาออกจากบริษัทรวมถึงลูกจ้างที่เกษียณอายุ มีแนวโน้มคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบลจ.ทิสโก้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากระดับ 1,500 ล้านบาท ในปี 2555 เพิ่มเป็นประมาณ 8,000 ล้านบาทในปัจจุบัน

"การมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลายถือเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สมาชิกยังคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยเฉพาะในส่วนของ Master Pooled Fund (กองทุนร่วมที่มีหลายนายจ้างและหลากหลายนโยบายการลงทุน) ที่มีนโยบายการลงทุนถึง 9 นโยบาย เช่น นโยบายตราสารหนี้ระยะสั้น นโยบายตราสารหนี้มั่นคง นโยบายผสม (ตราสารหนี้+หุ้น) นโยบายหุ้น นโยบายหน่วยลงทุนกองทุนรวมต่างประเทศ (FIF) เป็นต้น และมีรูปแบบทางเลือกมาตรฐาน (Standard Option) มากถึง 15 ทางเลือก อีกทั้งสมาชิกสามารถเลือกจัดสรรเงินลงทุนไปยังนโยบายการลงทุนต่างๆ ได้อย่างอิสระ (Free Style)" นางแขขวัญ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย บลจ.ทิสโก้อยู่ระหว่างการออกแบบทางเลือกการลงทุน "Smart Life-path" ที่ไม่เพียงแค่เป็นการปรับสัดส่วนการลงทุนตามอายุ แต่สามารถปรับสัดส่วนการลงทุนตามระดับความเสี่ยงและเป้าหมายเกษียณของสมาชิกแต่ละราย เนื่องจากมองว่าการปรับสัดส่วนการลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงอายุแต่เพียงอย่างเดียวนั้นอาจไม่เพียงพอ เพราะสมาชิกแต่ละรายแม้มีอายุเท่ากัน แต่สามารถรับความเสี่ยงได้ไม่เท่ากัน และมีเป้าหมายการเกษียณอายุที่ต่างกัน

นอกจากนี้ ยังเตรียมเพิ่มบริการให้คำแนะนำการลงทุนแบบรายปีสำหรับสมาชิกรายบุคคล ซึ่งเป็นตัวช่วยของลูกค้าในการทบทวนพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง อีกทั้งยังช่วยให้ลูกค้าทราบว่าการออมที่ผ่านมาในแต่ละช่วงเวลานั้นทำได้ตามเป้าหมายมากน้อยแค่ไหน ซึ่งการแนะนำนี้จะทำควบคู่ไปกับการให้ความรู้ผ่านงานสัมมนาและสื่ออื่นๆ ที่บลจ.ทิสโก้ดำเนินการอยู่แล้ว โดยเน้นการให้คำแนะนำตามช่วงวัย ตัวอย่างเช่น กลุ่มวัยทำงานจะให้ความรู้ด้านการวางแผนทางการเงิน ครอบคลุมใน 4 ด้าน ได้แก่ Smart Saving, Smart Spending, Smart Living และ Smart Insured กลุ่มใกล้เกษียณจะให้ความรู้ผ่านงานสัมมนา "ชีวิตดี๊ดี แฮปปี้ 55+" เน้นเรื่องการจัดการเงินหลังเกษียณ เงินประกันสังคม และการดูแลตัวเองหลังเกษียณ โดยผู้เชี่ยวชาญจากทิสโก้ และผู้ทรงคุณวุฒิรับเชิญ ทั้งหมดนี้จะเป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่ทำให้สมาชิกมีเงินเพียงพอสำหรับวัยเกษียณ

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้สนใจลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนการตัดสินใจลงทุน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO